สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.๑ บก.สส.สตม.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส.สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวันที่ ( 19 พฤษภาคม 2568 ) เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สวญ.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.,ว่าที่ พ.ต.ท.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ด.ต.วิชัย ตามสมัย ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา นำโดย ว่าที่ ร.ต.ท.อรชุน วรธนากร,ว่าที่ ร.ต.ต.สิทธิชัย ศรีรัตนเพียร รอง สว.(สส.)ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,ด.ต.นันทพัทธ์ บุญช่วย ผบ หมู่ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.สส.สตม. นำโดย ร.ต.อ.พฤฒิพงศ์ ทรงภักดีกุล รอง สว.กก.๑ บก.สส.สตม. , ร.ต.ต ชูศักดิ์ ภู่อุ่น รอง สว.(สส) กก.๑ บก สส. สตม.,ด.ต.นัฐพงศ์ รัตนา,จ.ส.ต.กฤษดา อ นันทสุข ผบ.หมู่ กก.๑ บก.สส.สตม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. นำโดย ร.ต.อ.ก้องเพชร โกบุตร รอง สว.(ป) กก.2 บก.ปทส.,ร.ต.ต.ศรีไวย์ สุขอ่อน, ร.ต.ต.สินธิ์ สุขทอง รอง สว.(ป)กก.2 บก.ปทส.,ด.ต.ธำนูล พลบำรุง,ด.ต.นนท์ นันทฤชัย ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปทส.
ได้ออกสำรวจเส้นทาง พบรถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU MU-7 สีขาว ทะเบียน 2ขว-9316 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาลักษณะติดฟิล์มมืดทึบขับขี่ด้วยความเร็วเปลี่ยนช่องทางกระทันหันมีเหตุอันควรต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.1-2 ถนนสายเอเชีย(ขาเข้า) ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการขอตรวจสอบ
เบื้องต้นพบนายพวาตุ ไพรนฤดม อายุ 48 ปี เป็น ชาว ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นตรวจสอบภายในรถยนต์ พบมีบุคคลที่นั่งโดยสารมากับรถคันดังกล่าว คล้ายต่างด้าวจำนวน 6-7 คน เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นทราบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง จึงควบคุมตัวไปที่ สภ.พระอินทร์ราชา ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสอบสวนอีกครั้ง
จากการสอบถามนายพวาตุฯ ผู้ขับขี่ ให้การรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 07.44 น. ตนได้รับการติดต่อจาก FACEBOOK ชื่อ Phoe Eh ชื่อเล่น เอ๋ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เป็นผู้ว่าจ้างให้ ข้าฯขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นให้ข้าฯติดต่อกับนาย ลิ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ซึ่งใช้ FACEBOOK ชื่อ Aung Mya Lwin ซึ่งนาย ลิ นั้นจะเป็นผู้แจ้งกับตนให้ไปส่งแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามจุดหมายปลายทางต่างๆในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยได้ค่าจ้าง 4,500 บาทต่อคนต่างด้าว 1 คน โดยจะได้รับเมื่อทำการส่งคนต่างด้าวถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ
จากการสอบถามผู้โดยสารทั้ง 6 คน ที่เป็นบุคคลต่างด้าวผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ทราบว่าทั้งหมดได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำงานในประเทศไทย โดยยังไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหานายพวาตุ ไพรนฤดม ผู้ขับขี่ “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถคันดังกล่าว “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ข่าวเด่นทั่วไทยTOPNEWS ภาคกลาง