HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

ป.ป.ช.ตรังชี้มูลความผิดคดีเรียกรับสินบนโครงการก่อสร้างอาคารเรียน

วันที่ 16  ม.ค. 2567 ที่ห้องประชุมสำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.ปปช.ตรัง พร้อมด้วยนายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต แถลงข่าว ชี้มูล นายวุฒิชัย สุนทรนนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลย่านตาขาว เรียกรับสินบนจากผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างอาคารเรียน ของเทศบาลตำบลย่านตาขาว” ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหา นายวุฒิชัย สุนทรนนท์  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง กับพวกเรียกรับประโยชน์จากผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างอาคารเรียน ระดับประถมศึกษาของเทศบาลตำบลย่านตาขาว งบประมาณ5,709,900 บาท

จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าว   นายวุฒิชัย สุนทรนนท์ นายกเทศมนตรีตำบลย่านตาขาว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้เรียกรับเงินจากนายสมศักดิ์ หนูปทุม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช่างศักดิ์ก่อสร้าง ได้เป็นผู้รับจ้างในโครงการดังกล่าวกับเทศบาลตำบลย่านตาขาว ซึ่งปรากฏว่าได้มีการโอนเงิน จำนวน 100,000 บาท จากบัญชีของนางสาวฮุสนี และสุบ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 และจากบัญชีนายสมศักดิ์  หนูปทุม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 อีก 100,000 บาท เข้าไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาย่านตาขาชื่อบัญชีนางนิภาพร นวลแก้ว เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงานผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เพื่อนำไปมอบให้แก่นายวุฒิชัย สุนทรนนท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ตามที่นายวุฒิชัย สุนทรนนท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้เรียกรับเงินไว้ เป็นเหตุให้เทศบาลตำบลย่านตาขาว และทางราชการได้รับความเสียหาย  ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติในกรณีกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาแต่ละราย ดังนี้ นายวุฒิชัย  สุนทรนนท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า การกระทำของนายวุฒิชัย  สุนทรนนท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือ มิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคล มาตรา ๑๐๓ ประกอบมาตรา ๑๒๒ และมาตรา ๑๒๓/๑

 

นายสมศักดิ์  หนูปทุม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า การกระทำของนายสมศักดิ์  หนูปทุม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้ให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ และฐาน เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 144 และมาตรา 15๗ ประกอบมาตรา ๘๖ นางสาวฮุสนี  และสุบ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงคะแนนเสียงมาก ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นางสาวฮุสนี  และสุบ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ได้กระทำ  ความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป  โดยให้กันนางนิภาพร นวลแก้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ.2561 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง จะส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีอำนาจพิจารณาคดีกับ นายวุฒิชัย  สุนทรนนท์ และนายสมศักดิ์  หนูปทุม และส่งสำนวนการไต่สวน และเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายวุฒิชัย    สุนทรนนท์ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๙๑ (๑) และ (๒) และมาตรา ๙๘ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทราบด้วย

ถนอมศักดิ์  หนูนุ่ม/ จ.ตรัง