HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

ตลาดน้ำสี่ภาค แถลง ความเสียหายกว่า 70 ล้าน เตรียมเยียวยา พ่อค้า แม่ค้า

จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ภายใน ตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา สร้างความโกลาหล ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการของตลาด เป็นอย่างมากที่จะต้องช่วยกันขนของอพยพหนีไฟ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนที่นำกำลังมาช่วยเหลือ จนกระทั้งเพลิงสงบลง
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 9 กันยายน 2566 น.ส.สุมาพร ศรีเมือง ผู้จัดการทั่วไป และฝ่ายกฎหมาย ของตลาดน้ำสี่ภาค ออกมาแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีนายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง รวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนง เข้าร่วมฟังการแถลง ในพื้นที่ของตลาดน้ำสี่ภาค ในครั้งนี้ด้วย โดยทางตลาดน้ำได้เล่าถึงวันที่เกิดเหตุนั้น มีพนักงานรักษาความปลอดภัย สังเกตเห็นกลุ่มควันและเปลวไฟ ซึ่งทีมรักษาความปลอดภัยนั้นมีการฝึกซ้อมดับเพลิงในเบื้องต้นทุกคนอยู่แล้ว แต่ด้วยเวลาที่เกิดเหตุมีปัญหาเรื่องลมแรง ประกอบกับโครงสร้างเป็นไม้เก่า ที่ทางตลาดน้ำนำไม้จากบ้านเก่าในจังหวัดอยุทธยามาสร้าง และมุงด้วยหลังคาจาก ซึ่งวัสดุเหล่านี้ไวไฟ จึงทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ซึ่งทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเข้าพื้นที่ช่วยเหลือในเวลาที่รวดเร็ว โดยทีมผจญเพลิง ได้แบ่งรถน้ำดับเพลิงเข้าทางด้านหลัง ด้านข้างบริเวณหมู่บ้านเบเวอรี่ และหมู่บ้านสิรินดา ด้านหน้าตลาดน้ำ ก็ถือเป็นความโชคดีที่สถานที่ตั้งมีแหล่งน้ำ จึงสามารถดูดแล้วฉีดสกัดได้เลย จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. เพลิงเริ่มสงบอยู่ในวงจำกัด และดับลง เจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังกลับ จากนั้นทีมรักษาความปลอดภัยของตลาดน้ำ ได้ฉีดน้ำเลี้ยงบริเวณที่ยังเกิดกลุ่มควันอยู่จนกระทั่งเช้า ซึ่งทางตลาดน้ำนั้นคิดว่าสิ่งที่ได้กลับมานั่น คือมิตรแท้ ที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือ

ต่อในวันที่ 8 ก.ย.ซึ่งทางตลาดน้ำต้องล้อมแสลนปิดไว้ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของ ทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน วิศวกรโยธา ได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานในการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางตลาดน้ำ ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ก็จะต้องรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานเท่านั้น ส่วนด้านความเสียหายนั้น เสียหายไปประมาณ 30 เปอร์เซ็นของพื้นที่ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะเป็นโซนจำหน่ายสินค้าพื้นที่ภาคเหนือ ร้านอาหาร ประเมินมูลค่าความเสียหายแล้วประมาณ 70 ล้าน ไม่รวมของผู้ประกอบการ ส่วนเรื่องประกันนั้นทางตลาดน้ำมีประกันอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของทุนประกันนั้นคงไม่ได้มากมายอะไร ทางตลาดน้ำคงไม่นำไปแลกกับชื่อเสียง ชีวิตของผู้ประกอบการ ซึ่งมันไม่คุ้มอย่างแน่นอน
ในขณะที่ผลกระทบที่ตามมาหลังเกิดเหตุนั้นมีทั้งด้านการจองโปรแกรมของนักท่องเที่ยว ที่จะต้องขอยกเลิกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ได้รับกำลังใจจากนักท่องเที่ยว ไม่ได้รับการตำหนิตอกย้ำแต่อย่างใด รวมถึงความเดือดร้อนสูญเสียของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ทั้งทรัพย์สิน สินค้าที่ถูกไฟไหม้ โครงสร้างที่ต้องทุบทำลาย สินค้าสูญหายต่างๆ ทางตลาดน้ำ ยืนยันไม่มีการทอดทิ้งแน่นอน ก็จะต้องให้ผู้ประกอบการนั้นเข้ามาแจ้งรายรายเอียด เพื่อช่วยเหลือเยียวยา โดยจะใช้เงินที่ได้จากประกันของทางตลาดน้ำในการช่วยเหลือต่อไป และทางตลาดน้ำนั้นยังไม่มีแผนที่จะสร้างอะไรจากทุนประกัน

โดยทางตลาดน้ำสี่ภาคนั้นไม่อยากที่จะปิดตัวนาน เพราะ มีโปรแกรมทัวร์เข้าใช้บริการตลอด และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำลูกค้าเกิดความกังวล กลัวว่าจะไม่สามารถมาเปิดให้ใช้บริการได้อีก ขณะที่ทางตลาดน้ำนั้น มีโครงการที่จะเปิดโซนใหม่เพิ่มในช่วงเดือนกันยายนนี้ แต่มาเกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน จึงมีแนวคิดว่า คงจะต้องย้ายมาเปิดในโซนใหม่ก่อนแล้วปิดปรับปรุงเฉพาะโซนที่เกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากเป็นห่วงหลายด้าน ทั้งผู้ประกอบการร้านค้า พนักงาน โดยจะให้พ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับผลกระทบไปจองพื้นที่ได้เลย รวมไปถึงไม่อยากจะให้ตลาดน้ำสี่ภาค ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอยู่แล้วเป็นสถานที่ที่ถูกลืมไป จึงตัดสินใจจะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 12 กันยายนนี้

 

ภาพ/ข่าว เก่ง ณ สงขลา ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี