เมื่อเวลา 02.00 น. วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ผู้สื่อข่าวตระเวนดูปริมาณน้ำฝนที่กำลังสะสมเอ่อล้นท่วมถนน3076 ช่วงทางร่วมแยกเข้าบ้านเกาะลอย บ้านหนองคอก ท่ามกลางฝนที่เทลงมาราวกับโกรธใครมา ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก บางช่วงรถเล็กผ่านไม่ได้ บ้านเรือนชาวบ้านยังคงหลับสบายกัน มีเพียงร้านสะดวกซื้อเพียงร้านเดียวที่เปิดให้บริการกลางดึกที่เงียบสงัดมืด มีเพียงสายฝนเป็นเพื่อนกับผู้สื่อข่าวที่ขับรถผ่านมา
ขณะที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายวัชรกร คำแก้ว หรือน้องแบ้งค์ อายุ 26 ปี ที่ได้โพลตส์ว่า กะว่ามาตี2 พอตี 1.30 น. ฝนตกเลย ไปกับฝนหมด ทางไหนเสียบ้างหนอ ก็มีคนมาคอมเม้นท์ ให้กำลังใจ เพราะหลายคนก็แย่ ผู้สื่อข่าวสอบถาม ผู้โพลตส์คือ นายวัชรกร คำแก้ว หรือน้องแบ้งค์ เล่าว่า แย่เลยครับ ฝนเทหนักมากๆ ซึ่งจริงๆก็ดูสภาพอากาศฝนจากแอปเรด้ากรมอุตุ ที่ถือว่าแม่นมากเห็นกลุ่มฝนกำลังมาจากทางสระแก้ว ห่างจากสวนยางพารา ตนเองประมาณ 100 กม. คือที่ หมู่ที่ 8 บ้านเทพประทาน ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา น้องแบ้งค์ตัดพ้อว่ารู้สึกแย่มาก เหนื่อยฟรี เดินกรีดยางท่ามกลางความมืด 3- 4 ชั่วโมง ฝนมาเทราวกับโกรธใครมาเสียหายหมดไม่มีรายได้
น้องแบ้งค์ ยังเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ฝนที่เททำให้กรีดยางมาเสียหายหมด ไหนยังต้องระวังช้างป่าจำนวนมากนับร้อย เมื่อตอนหัวค่ำที่ต้องขอให้เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ทหารพรานที่1306 เจ้าหน้าที่อาสาของ อบต.คลองตะเกรา มาช่วยชาวบ้าน ชาวสวนยางในการผลักดันโขลงช้างป่าจำนวนมาก ที่ออกมาหากินพืชสวนเกษตรกรช่วงบริเวณชายป่าข้างวัดบ้านเทพประทาน จึงขอเป้นกำลังใจให้ทุกคน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวต้องขอกลับบ้านก่อนฝนจะเทลงมากกว่าเก่าเพราะเกรงว่าจะออกจากพื้นที่ไม่ได้ มีน้ำหลากเอ่อท่วมที่รอการระบาย หลายจุด ที่สำคัญฟ้าแรงมากและกลัวช้างป่า ตอนนี้ตีสามกว่าแล้ว ฝนยังเทหนักอยู่ สงสารชาวสวนยางส่วนอาชีพต่อมาในช่วงเช้านี้คงเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดที่ต้องรับมือกับพายุฝนที่เทกระหน่ำต่อไป
สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา
