HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

แน่นวัด แจกถุงยังชีพช่วยชาวกัมพูชา ถูกเพลิงไหม้ตลาดชายแดนช่องจอม ก่อนปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่น”เหรียญเสมา 8 รอบ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2566 ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ช่วงเช้า ช่วงเช้าเวลา 09.30 น.ทีมงาน”ป๋อง สุพรรณ การันตี PSGA”และทีมงาน”เอ พุทธศิลป์” ผู้จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น”เหรียญเสมา 8 รอบ”ที่ระลึก อายุ 8 รอบ 96 ปี หลวงพ่อเฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดบ้านด่าน ก็ได้มีการแจกถุงยังชีพ ประกอบด้วยเครื่องอุปโภค-บริโภค ข้าวสารอาหารแห้งต่างๆให้กับผู้ประสบอัคคีภัย หลังจากเพลิงไหม้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการชาวกัมพูชากว่า 250 ครัวเรือนอีกด้วย

จากนั้นทีมงานได้ถือฤกษ์ดี เวลา 11.11 น.ประกอบพิธีพราหมณ์ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเริ่มพิธีมหาพุทธาภิเษก วัตถุมงคลรุ่น”เหรียญเสมา 8 รอบ”ที่ระลึก อายุ 8 รอบ 96 ปี หลวงพ่อเฮง ปภาโส หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม (วัดบ้านด่านช่องจอม) ในช่วงบ่าย ทั้งนี้เพื่อเป็นพุทธบูชา และสมทบทุนสร้างมณฑลรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก  โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวงได้มีการจุดประทัด ปรากฏเลขหางประทัดคือเลข 647 ทำให้ประชาชนที่มาร่วมงาน ต่างฮือฮาเตรียมนำเลขเด็ดดังกล่าว ไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้กันตามระเบียบ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าล็อตเตอรี่เลขเด็ดดังกล่าวถึงกับหมดไปจากแผงอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

หลังจากนั้นในช่วงบ่ายเวลา 13.00 น.ได้มีพิธีมหาพุทธาภิเษก”เหรียญเสมา 8 รอบ”ฯ โดยมี หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่าน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกเหรียญพระเครื่องวัตถุมงคลดังกล่าว ร่วมกับพระเกจิคณาจารย์จากวัดต่างๆรวมทั้งหมด 8 รูป อย่างเข้มขลังค์  ก่อนที่จะมีการแจกเหรียญวัตถุมงคลที่ปลุกเสกให้กับประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชาที่มารอรับแจกเหรียญนับพันคน และมีเซียนพระมารอรับเช่าซื้อเหรียญถึงในวัด ราคาเหรียญละ 300-500 บาท  และหากเป็นเนื้อเหรียญพิเศษที่เป็นความต้องการของเซียน ราคาก็จะพุ่งถึงเหรียญละ 5 พัน เลยทีเดียว

 

 

 

สำหรับวัตถุมงคลรุ่น”เหรียญเสมา 8 รอบ”ที่ระลึก อายุ 8 รอบ 96 ปี หลวงพ่อเฮง ปภาโส หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม (วัดบ้านด่านช่องจอม) มีหลากหลายแบบและเนื้อเหรียญให้ประชาชนที่ศรัทธาได้เช่าบูชา ซึ่งมีผู้ที่สนใจได้จับจองจนหมดแล้ว นอกจากนี้เหรียญพระเครื่องดังกล่าว ยังได้รับการการันตีพระแท้ตลอดชีพ จากพีเอสจีเอ ออเธนทิเคชั่น บริษัทรับตรวจสอบ ออกบัตรรับรอง การันตีความแท้อย่างเป็นทางการ ในเครือสถาบันรับรองและตรวจสอบวัตถุมงคลประเทศไทย ACI Certified Institute โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการยกระดับการสะสมของประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับของคนไทย และชาวต่างประเทศทั่วโลก โดยป๋อง สุพรรณ เซียนพระชื่อดังของประเทศไทยอีกด้วยทั้งนี้หากประชาชนสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟสบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า“ประชาสัมพันธ์ข่าวสารงานบุญ-เอ พุทธศิลป์ ถุงเงิน”

 

 

 

 

สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ

 จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ

 

 จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้ ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย.

 

 

 

ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์