พิธีเปิดการแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน

มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมฉลองการจัดงานนมัสการหลวงพ่อพุทธโสธร เพื่ออนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นการสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความรัก ความสามัคคีและความสัมพันธ์อันดีงามในหมู่คณะ รวมถึงเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี ไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีเรือพายจากจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 88 ลำ แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้
1. ประเภทเรือยาวเล็ก ไม่เกิน 30 ฝีพาย มีการแข่งขัน 2 ประเภท
ประเภทถ้วย ก.
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 30,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 20,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 15,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 3 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 10,000.-บาท
ประเภทถ้วย ข.
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 8,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 6,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 4,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 3 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 2,000.-บาท
2. ประเภทเรือยาวจิ๋ว ไม่เกิน 12 ฝีพาย มีการแข่งขัน 2 ประเภท
ประเภทถ้วย ก.
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 20,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 ได้รับถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 15,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 10,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 3 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 8,000.-บาท
ประเภทถ้วย ข.
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 6,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 4,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 3,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 3 ได้ถ้วยรางวัลวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 2,000.-บาท
3. ประเภทเรือมาดพื้นบ้าน ไม่เกิน 12 ฝีพาย
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 15,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 10,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล
8,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 3 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 5,000.-บาท
4. ประเภทเรือมาดพื้นบ้านแต่ง ไม่เกิน 12 ฝีพาย
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 15,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 10,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 8,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 3 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 5,000.-บาท
5. ประเภทเรือมาดพื้นบ้าน ไม่เกิน 9 ฝีพาย
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 10,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 8,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 6,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 3 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 4,000.-บาท

6. ประเภทเรือมาดพื้นบ้านแต่ง ไม่เกิน 9 ฝีพาย
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 10,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 1 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 8,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 2 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 6,000.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ลำดับที่ 3 ได้รับถ้วยรางวัลองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 4,000.-บาท
ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีการสนับสนุนการแข่งขันเรือยาวประเพณี มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 จนถึงปี พ.ศ.2559 ยาวนานมากว่า 10 ปี และว่างเว้นมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2559 จนถึงปี พ.ศ.2564 และเริ่มจัดการแข่งขันอีกครั้ง ในปี พ.ศ.2565 จนถึงปัจจุบัน