HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

“คมกริช ชมบัว” ตัวประกันฮามาส กลับถึงบ้านเกิดที่สุรินทร์ โผกอดพ่อแม่ญาติพี่น้องด้วยความดีใจ

วันที่ 1 ธ.ค.66 ที่บ้านเลขที่ 54 ม.3 บ.อำปึล ต.โชกเหนือ อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของนายคมกริช ชมบัว อายุ 28 ปี หนึ่งในตัวประกันฮามาส ที่ถูกปล่อยตัวในล็อตที่ 2 จำนวน 4 คน เมื่อเวลา 23.50 น.ของคืนวันที่ 25 พ.ย.66 ที่ผ่านมา และได้เดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ของเย็นวานนี้ (30 พ.ย.66) ก่อนจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวของญาติเดินทางกลับบ้านเกิด ซึ่งนายคมกริช ชมบัว ได้เดินทางมาถึงบ้านเกิดเวลาเกือบตี 2 ของวันนี้ โดยมีนายสุนันท์และนางพรทิพย์ ชมบัว รวมทั้งพี่สาวของนายคมกริช ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ที่ต่างรอคอยการกลับมาในครั้งนี้อยู่ที่บ้าน

 

ทันทีที่นายคมกริช  ชมบัว ลงจากรถ  ญาติพี่น้องและพ่อแม่ของนายคมกริชฯ ก็ได้กรูเข้าไปสวมกอดต้อนรับการกลับมาในรอบ 4 ปีกว่าที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลก่อนจะถูกจับเป็นตัวประกันและขาดการติดต่อไปกว่า 1 เดือนครึ่งทันที  ขณะที่พ่อแม่ของนายคมกริชฯ ถึงกับน้ำตาซึมปลื้มใจที่ได้เห็นลูกชายกลับมาตัวเป็นๆ ต่างจากก่อนหน้านี้ที่กินไม่ได้นอนไม่หลับ โดยไม่รู้ชะตากรรมของลูกชายว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ก่อนที่นายคมกริชฯจะนั่งลงก้มลงกราบแผ่นดินเกิด พร้อมกับก้มกราบพ่อแม่ แสดงออกถึงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และด้วยความดีใจที่ได้มีชีวิตรอดกลับมาพบครอบครัวอีกครั้ง ด้วยบรรยากาศที่ปลื้มปิติและอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง

 

 

 

 

 

ขณะที่ญาติที่ขับรถมาส่งนายคมกริชฯบอกสั้นๆว่า นายคมกริชฯเล่าให้ฟังเพียงว่า”ตนเองถูกจับตัวไปอยู่ในอุโมงค์มืดๆกับเพื่อนๆประมาณ 7 คนเท่านั้น

 นายสุนันท์ ชมบัว  พ่อของนายคมกริชฯกล่าวว่า ตนดีใจมากที่ได้เจอลูกชาย ยิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1 ไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว ซึ่งวันนี้จะเดินสายเซ่นไหว้แก้บนและช่วงบ่ายจะทำพิธีบ่ายศรีสู่ขวัญต้อนรับการกลับมาของลูกชาย และก็จะเตรียมให้บวชแก้บน 7 วัน  วนเรื่องงานของลูกชายยังไม่ได้คิด

 

นางพรทิพย์ ชมบัว แม่ของนายคมกริชฯกล่าวว่า ที่ผ่านมาช่วงที่ลูกชายถูกจับเป็นตัวประกัน ตนไม่เคยคิดถึงเรื่องไม่ดีว่าจะเกิดกับลูก คิดแต่เพียงว่าลูกชายต้องรอด เพราะเขาเป็นคนเก่งคนฉลาดต้องรู้จักเอาตัวรอดได้ ดีใจมากที่ลูกชายกลับบมา มาอยู่บ้านหลังใหม่แม้จะยังสร้างไม่เสร็จด้วยกัน เขาเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย ต่อไปก็คงต้องแก้บนตามที่ได้เคยบนบานไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

 

 

 

นายคมกริช  ชมบัว กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดถึงเหตุการณ์ระหว่างถูกจับตัวว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะยังคงสะเทือนใจอยู่ แต่เวลาปวดหัวก็ขอยากลุ่มฮามาสทานเขาก็ให้ ส่วนข้าวได้กินบ้างอดบ้างตามสภาวะสถานการณ์ของสงคราม ใมนใจคิดถึงแต่พ่อแม่อย่างเดียวเท่านั้น และไม่ทราบข่าวสารเหตุการณ์อะไร ตั้งแต่ถูกจับตัววันแรกขณะนอนอยู่  ซึ่งตอนนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดยิงสู่รบกันปกติเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ใกล้เข้ามาและก็ถูกกลุ่มฮามาสบุกเข้ามาจับตัวโดยไม่ทันตั้งตัว  ทั้งนี้ ทางอิสราเอลไปรับตัวประกันมา มีการจัดรถไปรับเป็นขั้นเป็นตอน จนมาถึงโรงพยาบาล ลงมาจากรถทุกคนปรบมือต้อนรับหมดเลย ทั้งหมอทั้งทหารอิสราเอล ทั้งคนไทยพี่ๆแรงงานไทย ซึ่งทางกลุ่มฮามาสก็จัด จนท.มาส่ง ก็ดูแลเป็นอย่างดี ตนเดินทางมาด้วยเครื่องบิน แค่เปิดหน้าต่างเห็นน่านฟ้าไทยตนก็ดีใจแล้ว ปลื้มและดีใจมาก ช่วงที่ถูกคุมตัว คิดถึงแต่พ่อแม่ ว่าเขาจะอยู่ยังไง คงเป็นห่วงเรามาก ข่าวสารก็ไม่ได้รับรู้  การกลับมาครั้งนี้เหมือนได้ใช้ชีวิตใหม่ ตอนถูกควบคุมตัวไว้ เขาก็ไม่ได้ยิงหรือทำร้ายร่างกายอะไรเรา เราไม่รู้อะไรภายนอก รู้ว่าแต่เขารบกัน

 

 

ก็ไม่รู้ว่าจะถูกปบ่อนตัวเห็นกลุ่มฮามาสพาออกมาจากที่กักตัว ส่วนเรื่องกินก็กินปกติ มีอดบ้างตามสถานการณ์ เป็นห่วงครอบครัว เป็นห่วงเพื่อนร่วมงาน แต่ก็คิดว่าทางสถานทูต ก็คงมีการติดตามข่าว ทำให้สบายใจลงบ้าง คิดถึงแต่เรื่องดีๆ และบ้านหลังนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มาเห็น เมื่อก่อนอยู่บ้านไม้หลังเล็กที่เดิมตรงนี้ ต่อไปก็ต้องทำให้เสร็จ  ตอนนี้ก็เป็นห่วงเรื่องคนไทยที่ยังไม่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา ทางอิสราเอลและไทยก็มีการประสาน.

 

 

 

ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์