รมว.กลาโหม เปิดอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมทหารกล้า ผู้เสียสละเลือดเนื้อต่อสู้กับทหารกัมพูชา

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น เขาสัตตะโสม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย ซึ่ง พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ในนามคณะทำงานจัดสร้างอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย ได้จัดสร้างอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทยขึ้น เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของวีรชนที่ได้ใช้เล่ห์กลเสียสละเลือดเนื้อ การรักษาประเทศชาติ และอธิปไตย ในเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาในพื้นที่เขาสัตตะโสม – ช่องตาเฒ่า – ปราสาทโดนตรวล ห้วงปี พ.ศ.2550 – 2560 ที่ผ่านมา มีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีทางศาสนา พิธีเปิดอนุสาวรีย์ และการมอบของที่ระลึกแก่ทหารผ่านศึกจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมี พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.กองกำลังสุรนารี เป็นผู้กล่าวรายงานและมี พลตรี พรชัย มาหลิน รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ รอง ผบ.กองกำลังสุรนารี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ นายธาตรี สิริรุ่งวนิช ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ พ.ต.อ.กวีพงษ์ ชลการ ผกก.ตชด.22 นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าศรีสะเกษและผู้บังคับหน่วย พร้อมทั้งส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ

พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.กองกำลังสุรนารี กล่าวว่า โดยเหตุการณ์สำคัญเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2552 เวลา 16.30 น.ทหารกัมพูชา ประมาณ 100 นาย ได้รุกขึ้นทางทิศตะวันออก เพื่อยึดควบคุมเขาสัตตะโสม พัน.ร.163 ได้ใช้เล่ห์กลลวง ร่วมกับการใช้กำลังเข้าผลักดันทหารกัมพูชา จนต้องล่าถอยไป ในเวลา 23.30 น.ฝ่ายเราได้นำกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ และตั้ง “ฐานปฏิบัติการภูผา” รักษาแผ่นดินไทยไว้จนถึงปัจจุบัน กองกำลังสุรนารีจึงได้ร่วมกับผู้บังคับหน่วยที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนั้น กำลังพลและผู้มีจิตศรัทธา บริจาคทุนทรัพย์ก่อสร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 198,163 บาท เพื่อเป็นเกียรติให้แก่วีรชนที่เสียสละเลือดเนื้อ และเป็นเครื่องเตือนใจให้คนรุ่นหลังในการรักษาประเทศชาติให้คงอยู่ตลอดไป

พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.กองกำลังสุรนารี กล่าวต่อไปว่า การก่อสร้างอนุสาวรีย์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงคุณงามความ และยกย่องเชิดชูเกียรติแก่กำลังพลที่เสียสละเลือดเนี้อ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทย เพื่อเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของกำลังพล ครอบครัว และประชาชนทั่วไป เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ให้แก่อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้สืบไป โดยรูปแบบของอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย เป็นปูนปั้นรูปทหารพร้อมเครื่องสนามและอาวุธประจำกาย ขนาดเท่าคนจริงสูง 180 ซ.ม.โน้มตัวและยื่นมือไปข้างหน้าในลักษณะสั่งการ อันแสดงถึงความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในการปกป้องรักษาอธิปไตย ตั้งอยู่บนฐานปูนขนาดความกว้าง 130 ซม.สูง 180 ซม. จารึกชื่อผู้เสียสละเลือดเนื้อ จำนวนทั้งสิ้น 20 นาย

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่า หลังจากที่ตนเข้าดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงกลาโหม ก็ได้ไปเข้าคารวะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นทหารเก่าหลายท่าน เพื่อขอคำชี้แนะในการบริหารงานของกระทรวงกลาโหม จากนั้น คณะเหล่าทัพได้มาเข้าเยี่ยม ในวันนี้ตนได้มาดูหน้างานมาดูชีวิตที่เป็นแกนที่แท้จริงของทหารคือหน่วยรบที่อยู่ตามแนวชายแดน ทำให้ได้เห็นและเข้าใจในหลาย ๆ เรื่อง สำคัญที่สุดคือได้เห็นถึงปัญหาและความจำเป็น เช่น ถนนไม่สะดวก การขาดแคลนน้ำใช้ เป็นต้น ซึ่งตนจะได้ร่วมกับผู้นำหน่วยในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้สำเร็จลุล่วงต่อไป.