เทศบาลนครสงขลาตกแต่งทางเข้าชายหาดสมิหลาดึงดูด นทท.

วันที่ 12 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณทางเข้าชายหาดสมิหลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ทางเทศบาลนครสงขลาโดย นายวันชัย ปริญญาศิริ นายก เทศมนตรีนครสงขลาได้จัดให้มีการตกแต่ง บริเวณทางเข้าชายหาดสมิหลา เพื่อให้มีบรรยากาศแปลกใหม่ มีความสะดุดตาแก่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เพื่อให้เห็นถึงความสวยงามของนางกินรีทั้ง 7 นาง ซึ่งเป็นรูปแบบของวรรณคดีไทย ในวรรณกรรมเลื่องชื่อ”พระสุธน – มโนราห์” ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มีนางกินนรี 7 นางและพรานบุญที่ใช้บ่วงนาคบาศจับตัวนางมโนราห์

ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นอย่างมาก เนื่องจากนางกินรีทั้ง 7 นาง มีความสวยงาม จนต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพนางกินรี ที่มีความอ่อนช้อยในแบบฉบับของวรรณคดีไทยและมีความเป็นเอกลักษณ์ของนางในวรรณคดีไทยอันสวยงาม แม้ว่าจะอยู่ในสภาพทองเหลืองรมดำก็ตาม จึงเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นอย่างมาก

จากประวัตินางมโนราห์ เป็นธิดาองค์เล็กของท้าวทุมราชผู้เป็นพระยากินนร นางมีพระพี่นางอีกหกองค์ล้วนมีหน้าตาเหมือน ๆ กัน งดงามยิ่งกว่านางมนุษย์ รูปร่างหน้าตาของพวกเขาเหมือนมนุษย์แต่มีปีกและหางที่ถอดออกได้ เมื่อใส่ปีกใส่หางแล้วกินนรก็สามารถบินไปยังที่ต่าง ๆ ได้ นางมโนราห์และพี่น้องทั้งหกได้ไปเล่นน้ำที่สระน้ำอโนดาต เจอพรานบุญที่ต้องการจับตัวนางกินรีเพราะเห็นว่านางงดงามคู่ควรแก่พระสุธน โอรสแห่งเมือง ปัญจาลนคร พรานบุญจึงไปยืมบ่วงนาคบาศจากท้าวชมพูจิต พญานาคราช ซึ่งได้ให้ยืมบ่วงนาคบาศ เพราะพรานบุญเคยช่วยชีวิตเอาไว้และเห็นว่าพระสุธนกับนางมโนราห์เป็นเนื้อคู่กัน พรานบุญได้จับนางมโนราห์ไปถวายแก่พระสุธน พระสุธนเห็นเข้าก็เกิดหลงรักนางและพานางกลับเมือง และได้อภิเษกกัน การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบของวรรณคดีไทย บริเวณทางเข้าชายหาดสมิหลาสงขลา เพื่อให้มีบรรยากาศแปลกใหม่ มีความสะดุดตาแก่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เพื่อให้เห็นถึงความสวยงามของนางกินรีทั้ง 7 นาง ที่น่าสนใจ ไปถ่ายรูปส่งไลน์ส่งเฟสให้กับเพื่อนฝูง เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาอีกทางหนึ่งด้วย