ที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพน้อยที่ 2 เป็นผู้แทน พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 / ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งตันและเคมีภัณฑ์ชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งตัน และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครพนม เร่งขับเคลื่อนงานตามนโยบาย แก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเป็นปัญหาที่ต้องดำเนินการลดความรุนแรงอย่างเร่งด่วนเพื่อประชาชน และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เร่งขับเคลื่อนให้การแก้ไขปัญหาต้องเห็นผลรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งมาตรการที่ต้องเริ่มอย่างเร่งด่วนคือการสกัดกั้นยาเสพคิดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่จะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้น เพราะจากสถิติการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้าไทยเกือบทั้งหมดมาจากเส้นทางนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดเร่งด่วนให้ลดลงภายใน 10 เดือน โดยมุ่งเป้าไปที่การสกัดกั้นตามแนวชายแดน จึงได้มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) โดยมีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้บัญชาการฯ ซึ่งจังหวัดนครพนม ได้ประกาศพื้นที่พิเศษ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 5(10) กำหนดให้ 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ อำเภอท่าอุเทน-เมืองนครพนม-ธาตุพนม และอำเภอบ้านแพง เป็นพื้นที่พิเศษเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) เพื่อให้เกิดการดำเนินการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการบูรณาการกำลังทั้งทหาร ตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 (ปปส.ภาค 4) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดนครพนม เสริมความเข้มแข็งตามแนวชายแดนมากยิ่งขึ้น ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญจำนวนมาก