HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ไล่ล่าแก๊งคนร้ายยิงรถทางหลวง ค้นรังคนร้ายพบปืน-ยาอื้อ พร้อมรวบหัวหน้าขบวนการค้ายาข้ามชาติ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบกป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.จรุงศักดิ์ จำรูญ ผกก.4 บก.ทล.,ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.อภิมันฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป.,ว่าที่ พ.ต.ต.วัทน์สิริ อินต๊ะทา สว.กก.สสน.บก.ป. ว่าที่ พ.ต.ต.ณัฏฐพล นิธิพัฒนโรจน์ สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล., ,ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ นามเขต รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.เอกสิทธิ์ อินทร์โท่โล่ รอง สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล., ร.ต.ท.ณัฏฐ์ ไทยแย้ม รอง สว.(สอนสวน) กก.1 บก.ป., ร.ต.ท.วิทยา สุทธิปัญโญ รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป., กก.สสน.บก.ป., ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน
1. นายณรงฤทธิ์ฯ อายุ 27 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” สถานที่จับกุม หมู่ 5 ต.หนองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 2 มี.ค.67 ​
​2. นางสาวธัญญาฯ อายุ 25 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอทเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย”​สถานที่จับกุม หมู่ 5 ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 2 มี.ค.67

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ.67 เวลาประมาณ 03.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. ได้ทำการออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา ขับขี่ด้วยความเร็วสูงลักษณะมีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ จากการสังเกตภายในรถพบคนร้ายนั่งมาในรถ 2 คน (คนขับและผู้นั่งข้างโดยสาร) ซึ่งต่อมาทางคนร้ายได้ขับขี่รถยนต์เร่งเครื่องหลบหนีเข้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตาม พร้อมทั้งแจ้งศูนย์วิทยุ 191 ให้สกัดรถยนต์คันดังกล่าว โดยเมื่อรถยนต์คันดังกล่าวถึงพื้นที่ ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดัง จำนวน 4-5 นัด หลังจากนั้นเมื่อรถคนร้ายมุ่งหน้าเข้าไปยัง จ.หนองบัวลำภู ก่อนถึงตัว จ.หนองบัวลำภู ประมาณ 8 กม. ก็มีเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นอีกครั้งประมาณ 4-5 นัด และมีเสียงคล้ายวัตถุของแข็งกระทบกับรถยนต์สายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 1 ครั้ง ซึ่งทางคนร้ายได้พยายามลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ชำนาญจนขับหลบหนีไปได้ในพื้นที่บริเวณถนน ต.หนองหว้า อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบรถยนต์สายตรวจวิทยุที่ใช้ขับไล่ติดตามคนร้าย เบื้องต้นพบว่า มีร่องรอยคล้ายกระสุนปืน จำนวน 1 รอย ทะลุผ่านบริเวณกันชนด้านหน้า โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือประชาชนได้รับบาดเจ็บ
ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนติดตามคนร้าย รวมทั้งขยายผลจับกุมบุคคลในเครือข่ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นขบวนการค้ายาเสพติด โดยมีหน้าที่ขนส่งยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มาส่งกระจายทั่วภาคอีสาน โดยคนร้ายได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมาจากทาง จ.อุดรธานี มุ่งหน้าเข้าสู่ จ.ขอนแก่น ซึ่งน่าเชื่อว่ากำลังจะมาส่งยาบ้าในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจากการสืบสวนทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ขับขี่รถคันก่อเหตุ คือนายจิตติคุณหรือเบิร์ดฯ (ผู้ขับขี่) และนายศุภชัยหรือต้าฯ (ผู้นั่งโดยสารข้างคนขับ) ซึ่งภายหลังจากก่อเหตุ นายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่ หมู่ 5 ต.เมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งสองราย พร้อมทั้งยังได้ทำการสืบสวนเพื่อทลายเครือข่ายเเก๊งค้ายาเสพติดดังกล่าวอีกด้วย
ซึ่งต่อมาวันที่ 2 มี.ค.67 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป., ชุดหนุมาน บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.4 บล.ทล. นำกำลังลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว ในพื้นที่ จ.หนองคาย, จ.อุดรธานี และจ.หนองบัวลำภู โดยจากการตรวจสอบยังไม่พบตัวนายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ในพื้นที่ดังกล่าว จึงทำให้น่าเชื่อว่าคนร้ายทั้งสองได้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว)

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นเป็นหัวหน้าแก๊ง มีหน้าที่สั่งการให้นายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ไปส่งยาบ้าตามจุดที่บอก พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ยาไอซ์ จำนวน 75.2 กรัม, ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 196 กรัม, ปืนลูกซอง จำนวน 1 กระบอก, ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, ปืนลูกโม่ .38 จำนวน 1 กระบอก, ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน รวมกว่า 132 นัด, รถยนต์ จำนวน 1 คัน, เงินสดจำนวน 175,120 บาท, สมุดบัญชี 7 เล่ม และรายการอื่นๆ รวมกว่า 28 รายการ
และยังได้จับกุม น.ส.ธัญญาฯ ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นแฟนสาวของนายศุภชัยฯ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 30 เม็ด จากนั้นจึงได้นำตัวนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงคุก จ.หนองคาย และนำตัว น.ส.ธัญญาฯ พร้อมของกลางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
​หลังจากการจับกุมดังกล่าวข้างต้นเเล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ขยายผลจนพบรถคันก่อเหตุ ถูกจอดไว้ที่ห้องเช่า ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งได้มีการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ​

 

​จากการสอบถามนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ให้การว่า หลังจากที่นายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ก่อเหตุดังกล่าวแล้ว ตนได้ไปรับนายจิตติคุณฯ และนายศุภชัยฯ ที่ จ.บึงกาฬ และพาไปส่งที่ สปป.ลาว ตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
​จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่านายณรงค์ฤทธิ์ฯ มีหมายจับติดตัวอีก จำนวน 3 หมาย โดยมีคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการแก๊งยาบ้าข้ามโขง 4 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ที่ จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.66 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนร้ายมีพฤติการณ์ยิงต่อสู้ก่อนที่จะหลบหนีข้ามฝั่งไปทาง สปป.ลาว ลักษณะเช่นเดียวกันกับเคสนี้
​1. หมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 52/2566 ลง 17 ก.พ.66 ความผิดฐาน “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้ลงกระทำตามที่สมคบกันร่วมกันนำเข้าในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมีอาวุธปืนหรือใช้อาวุธปืนอันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
2. หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 318/2565 ลง 14 มิ.ย.65 ความผิดฐาน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ
​3. หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 336/2565 ลง 22 มิ.ย.65 ความผิดฐาน “มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” ​