HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

ช่วยด้วยพี่โอ๊ต! เสียงเศร้าสุดท้าย น้องวัย 18 ปี เรือล่มจมหายต่อหน้าพี่วัย 19 ปี

วันที่ 25 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุสื่อสารมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) ได้รับแจ้งเหตุ เรือล่มส่งผลทำให้ชายอายุ 18 ปี จมน้ำสูญหายภายในสระน้ำ ซึ่งเป็นบ่อดูดทรายเก่า ติดกับริมแม่น้ำตรัง พื้นที่หมู่ 1 บ้านสะพานท่าส้ม ต.นาท่ามใต้ อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำจำนวนหลายนาย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยสว่างภักดีตรัง สมาคมกู้ภัยพิทักษ์ชีพการกุศลสงเคราะห์ จ.ตรัง ก่อนจะประสาน พ.ต.ท.ธีระเดช รัตนวิจิตร สว.สอบสวน สภ.บ้านคลองเต็ง และกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุทราบชื่อผู้สูญหายคือนายอภิวัฒน์ (สงวนนามสกุล)  อายุ 18 ปี ชาว อ.นาโยง จ.ตรัง ได้จมสูญหายไปในสระน้ำที่มีขนาดกว้าง มีความลึกสูงสุดประมาณ 2.5 เมตร เจ้าหน้าที่ประดาน้ำจึงได้ทำการสอบถามข้อมูลจากนายกิตติพจน์ (สงวนนามสกุล) หรือน้องโอ๊ต อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของสูญหาย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการลงค้นหา ก่อนจะทราบว่า ช่วงใกล้ค่ำของวานนี้ ได้ชักชวนกันมาเพื่อตกปลาภายในสระน้ำแห่งนี้ ประมาณ 6 คน และนอนพักค้างคืนกันที่ริมตลิ่ง จนกระทั่งก่อนจะเกิดเหตุ ตนเพิ่งซื้อข้าวมาให้น้องและกินกันเพิ่งเสร็จ ผู้สูญหายได้เห็นว่าทุ่นที่ผูกอยู่กับเบ็ดราวภายในสระน้ำ ได้จมลงคล้ายกับมีปลาติดเบ็ดราว แต่ตนเห็นว่าทุ่นยังไม่จม ก่อนที่ผู้สูญหายจะพายเรือไม้ออกมาจากตลิ่งเพื่อมาที่ทุ่นดังกล่าว ในระหว่างนั้นตนได้ว่ายน้ำตามผู้สูญหายไป และได้ตะโกนบอกว่าให้รอตนด้วย และให้พายเรือถอยมารับตน จังหวะเมื่อเรือมาถึงตน บริเวณกลางสระ ตนก็เห็นว่าเรือปกติดีในเรือไม่ได้มีน้ำ แต่จังหวะที่ตนกำลังจะขึ้นเรือ กลับเห็นว่าในเรือมีน้ำแล้ว ตนจึงสั่งให้ผู้สูญหายรีบตักน้ำออกจากเรือก่อน แต่น้ำได้เข้าเรือจำนวนมาก ก่อนที่เรือจะจมลงในทันทีพร้อมกับตัวของผู้สูญหาย ที่ว่ายน้ำไม่เป็นจมตามไปด้วย ก่อนที่จะตะโกนบอกตนว่า “ช่วยด้วยพี่โอ๊ต” ตนจึงช่วยดึงทันที แต่ผู้สูญหายด้วยความตกใจได้ตะเกียกตะกายเพื่อเอาชีวิตรอด และเหยียบกดตนลงน้ำ จนน้องสามารถยืนพ้นน้ำได้ แต่จังหวะนั้นตนก็หมดแรงและหมดอากาศเพราะถูกกดอยู่ในน้ำ ประกอบกับเหนื่อยล้าที่ว่ายน้ำมาจากตลิ่ง ตนก็รีบถีบตัวเองขึ้นมาลอยคอเหนือน้ำ และรีบบอกน้องว่าให้เงยหน้าขึ้นและอยู่นิ่งๆ แต่น้องก็ยังคงตะเกียกตะกาย จังหวะเดียวกันได้มีพลเมืองดีแถวนั้นโยนแกลลอนลงมาให้ เมื่อตนหยิบแกลลอนได้ และหันกลับไปหาน้องก็กลับเจอแล้ว ซึ่งใช้ระยะเวลาที่ช่วยเหลืออยู่ประมาณ 2-3 นาทีก่อนจะจมหายไป สำหรับน้องเปรียบเหมือนกับน้องชายแท้ๆตน เพราะพ่อของน้องได้มาทำงานที่อู่ของพ่อตน จนสนิทกับน้องมาตั้งแต่เล็กๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่ประดาน้ำจึงได้ทำการลงค้นหาใต้น้ำ บริเวณจุดที่ทางผู้พบเห็นเป็นคนสุดท้ายยืนยัน โดยได้ดำค้นหาเป็นแถวหน้ากระดาน จนกระทั่งพบเรือไม้ที่จมหาย แต่ยังไม่พบร่างของผู้สูญหาย ท่ามกลางเสียงร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงของพ่อ ยาย และบรรดาญาติพี่น้องของผู้สูญหายที่มาเฝ้ารออย่างมีความหวัง จนยายของผู้สูญหายร้องไห้และเป็นห่วงหลานจนเป็นลมล้มพับ และอีกบางส่วนได้ทำการจุดธูปเทียนบริเวณศาลเจ้าที่เจ้าทางที่อยู่ริมขอบสระน้ำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เจ้าทางเปิดทางให้พบเจอตัวผู้สูญหาย

จากนั้นในเวลาประมาณ 17.47 น. ซึ่งระยะเวลาค้นหาล่วงเลยมาประมาณ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้เพิ่มแผน โดยการนำเรือท้องแบนขับค้นหาอีกครั้ง แต่ในจังหวะนั้นปรากฏว่าร่างผู้สูญหายกลับลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำในทันที โดยคาดว่าแรงของใบพัดเรือได้ดันร่างผู้สูญหายลอยขึ้นมาในสภาพของการเสียชีวิต ลำตัวแข็ง ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติๆ ก่อนที่ทางแพทย์เวร รพ.ตรัง ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นไม่พบบาดแผลการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างได ขณะที่ทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้ส่งมอบร่างให้กับญาตินำไปประกอบพิธีการตามศาสนาต่อไป

ถนอมศักดิ์  หนูนุ่ม/ จ.ตรัง