HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

คืนภารโรงให้กับโรงเรียน เหล่าครูและนักเรียนดีใจขอบคุณรัฐบาล

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 11.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม. มีมติ อนุมัติการขอรับจัดสรรงบประมาณ สำหรับการจ้างเหมาบริการนักการภารโรง และเห็นชอบหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เฉพาะปี พ.ศ. 2568 โดยให้กระทรวงศึกษาธิการใช้งบประมาณในการจ้างภารโรงอย่างคุ้มค่า โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ สำหรับระยะต่อไป ให้กระทรวงศึกษาธิการนำเทคโนโลยี เช่น กล้องวงจรปิด มาช่วยดูแลความปลอดภัยแทนการเพิ่มกำลังคน ซึ่งสืบเนื่องจากการยกเลิกเวรครู เมื่อช่วงระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา โดยนโยบาย “คืนภารโรงให้กับโรงเรียน” เสนอให้จ้างนักการภารโรงเพิ่มอีก 14,210 อัตรา ( อัตตราละ 9,000 บาท) รวมเป็นเงิน 639,450,000 บาท เพื่อให้มารับหน้าที่อยู่เวรแทนครูทั่วประเทศตั้งแต่เปิดเทอมนี้ ( 1 พฤษภาคม 2567 ถึง 30 กันยายน 2567 ) หลังจากนี้ ศธ.มีแผนจะตั้งงบประมาณของปี 2568 เสนอต่อรัฐบาลอีกครั้ง นั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไป โรงเรียนวัดคู้สนามจันทร์(สามัคคีราษฎร์รังสรรค์) ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งมีภารโรงอยู่ก็เห็นการพัฒนาด้านอาคารสถานที่ต่างๆ พบนายเอกลักษณ์ ขาวนวล ผู้อำนวยการที่พาชมสนามแด็กเล่น และเล้าไก่ที่มีเครื่องให้อาหารไก่ จากผลงานของภารโรง โดยนายเอกลักษณ์ กล่าวว่า ข้อดีของการมีภารโรง ทำให้โรงเรียนมีคนช่วยดูแลงานด้านอาคารสถานที่ เป็นการแบ่งเบาภาระครู ให้เอาเวลาไปโฟกัสในเรื่องการพัฒนาการเรียนการสอน นอกจากนี้ยัประหยัดงบประมาณในการจ้างช่างภายนอกให้มาซ่อมแซมอุปกรณ์ ต่างๆ เพราะภารโรงจะสามารถซ่อมแซมได้ทั้งหมด โดยเฉพาะนายมนูญ คงสินธ์ อายุ 57 ปี ทำงานที่รร.วัดคู้สนามจันทร์มา 28 ปีภารโรงของโรงเรียน มีความคิดสร้างสรรค์นอกจากจะซ่อมแซมอาคารสถานที่วัสดุอุปกรณ์ต่างๆแล้ว ยังสร้างสรรค์อุปกรณ์ต่างๆเข้ามาช่วยจัดกิจกรรมต่างๆในโรงเรียน เช่น สร้างอุปกรณ์สนามเด็กเล่น และ เครื่องให้อาหารไก่ เป็นต้น การคืนภารโรงให้กับโรงเรียน ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะตนยังกังวลอยู่ถ้าภารโรงคนนี้เกษียณไป ร.ร.วัดคู้สนามจันทร์ จะทำอย่างไรต่อไป จึงขอขอบคุณ รัฐบาล เฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่คืนภารโรงให้กับโรงเรียน

จากนั้นผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ โรงเรียนวัดปากลัด(ผลาคารบำรุงวิทย์) ต.คลองเขิน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งไม่มีภารโรง พบว่ามีครูและนักเรียนต้องช่วยกันดูแลอาคารสถานที่ ทำความสะอาด เก็บขยะต่างๆ โดย น.ส.จริยา โชติวรรณะกร ผู้อำนวยการ กล่าวว่า โรงเรียนวัดปากลัดมีครูเป็นผู้หญิง จึงไม่สะดวกต่อการดูแลซ่อมบำรุงวัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ต่างๆ ต้องเสียงบประมาณจ้างช่างภายนอกเข้ามาซ่อมแซม อีกทั้งต้องเสียเวลามาดูแลทำความสะอาดโรงเรียน นอกจากนี้ในช่วงที่เข้าเวรคุณครูผู้หญิงก็กังวลด้านความปลอดภัย ดังนั้นการที่กระทรวงศึกษาธิการคืนภารโรงให้กับโรงเรียน จึงเป็นประโยชน์กับโรงเรียน คณะครู และนักเรียนเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากคุณครูจะเอาเวลา และสมองไปโฟกัสในเรื่องการเตรียมสื่อการสอน มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนก็มีเวลามาเล่นตามพัฒนาการเด็กๆ และมีเวลามาทบทวนวิชาการต่างๆ อีกทั้งจะมีภารโรงมาช่วยในการซ่อมแซมบำรุงรักษาอาคารสถานที่ และปรับปรุงภูมิทัศน์ เพราะโรงเรียนมีพื้นที่มาก ต้นไม้วัชพืชก็มากตามไปด้วย ตลอดจนครูจะมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น มีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินมากขึ้น ด้วย การคืนภารโรงให้กับโรงเรียนจึงถือเป็นเรื่องดี ทำให้โรงเรียนมีความปลอดภัยมีความน่าอยู่ มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ดีขึ้นด้วย จึงขอขอบคุณพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่คืนความสุขให้กับครูและนักเรียนในครั้งนี้
นพพร บุญทนาวงศ์ ผู้สื่อข่าวประจำจ.สมุทรสงคราม