HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

ญาติสุดเศร้าจัดงานศพคู่แม่ ลูก หลังพิษยาบ้าทำลูกชายคลั่งตีแม่จนเสียชีวิต

เปิดวงจรปิดเส้นทางลูกชายคลั่งยาบ้าทุบตีแม่เสียชีวิตก่อนโดนตำรวจจับ และเจ้าตัวหัวใจวายอยู่ห้องไอซียูล่าสุดเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ญาติเศร้าตั้งศพแม่ลูกคู่กับหลังพิษยาบ้าทำลูกชายคลั่งฆ่าแม่
ภาพวงจรปิด งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลวังสะเกร็ง เผยขณะที่นายณรงค์ชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พยายามหลบหนี หลังจากทุบทำร้ายนางบุญส่ง (สงวนนามสกุล)อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นมารดาจนสลบแน่นิ่งและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยนายณรงค์ชัย เดินอย่างชิวๆออกจากบ้านพักมุ่งหน้าผ่าน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลบางจะเกร็ง โดยมีตำรวจ 2 นายพยายามเข้าจับกลุ่มแต่ณรงค์ชัย ต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่จึงถอนกำลัง เพื่อ ขอกำลังเสริมและนำไม้ง่ามตามไปจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ตรวจสุขภาพเทศบาลตำบลบางจะเกร็ง ก่อนที่นายณรงค์ชัยจะ หัวใจวายและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดศรัทธาธรรม ตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม เพื่อติดตามบรรยากาศงานศพนางบุญส่ง ผู้เป็นมารดา และนายณรงค์ชัย บุตรชาย พบนายชำนาญ  บุตรชายคน กลาง และ นางอำไพ ลูกสะไภ้ นำอาหารเย็นมาวางข้างโลงศพนางบุญส่ง ผู้เป็นมารดา ด้านบน และ วางข้างโลงศพ นายณรงค์ชัย ที่โลงอยู่ด้านล่าง พร้อมเคาะทั้ง 2โลงให้มารับประทานอาหารเย็น นอกจากนี้ยังตกแต่งด้วยดอกไม้สดอย่างสวยงาม เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้ตายทั้ง 2 คนเป็นครั้งสุดท้าย นายชำนาญ กล่าวว่า ปกติน้องขายจะนอนที่โรงหอย ห่างจากบ้านพักประมาณ 100 เมตร และจะมารับประทานอาหารเย็นทุกวัน กับมารดาและพี่สาว บ่อยครั้งน้องชายมักจะคลั่งยาบ้า อาละวาท มีปากเสียงกันเป็นประจำ แต่ก็ไม่รุนแรง เคยพาไปรักษาแต่หมอก็ส่งกลับบ้าน ไม่ได้ส่งบำบัด ก่อนเกิดเหตุเพียง 2 วัน จู่ผู้ตายก็ขอมานอนที่บ้าน กระทั่งมาเกิดอาการคลั่งไม่รู้ตัวอ้างว่าตัวเองเป็นไอ้ไข่ และคุมไม่อยู่ จนมาก่อเหตุทุบทำร้ายแม่จนเสียชีวิตในครั้งนี้ ซึ่งทางญาติก็วางศพแม่ลูกคู่กัน จัดงานวันเดียวกัน สวดพระอภิธรรมศพไปจนถึงวันที่ 12 เมษายน 2567 และจะเผาวันที่ 18 เมษายน 2567

นายชำนาญ กล่าวว่า แม่เป็นคนชอบช่วยเหลือคน จึงมีคนรักเยอะ เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางจะเกร็ง 2 สมัย ผู้สื่อข่าว ถามว่าโกรธไหม นายชำนาญ ก็ตอบว่าโกรธที่น้องชายมาทำร้ายแม่ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็คงอโหสิกรรมให้นางอำไพ ลูกสะไภ้ กล่าวว่า ตนโกรธน้องชาย และโทษนโยบายยาบ้า 5 เม็ดเป็นผู้ป่วยมากกว่า ทำให้ไม่ถูกจับปราบปราม เพราะหากไม่มีนโยบายนี้น้องชายก็คงไม่เสพจนหลอนคลั่งขนาดนี้ อยากให้รัฐบาลกวาดล้างยาบ้าให้หมดสิ้น แม่แต่เม็ดเดียวก็ขอให้ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ค้าขายกันง่ายเหมือนซื้อขนม ก็ขอให้ครอบครัวตนเป็นครอบครัวสุดท้ายที่ต้องสูญเสีย 2 ชีวิตจากยาบ้า

นพพร บุญทนาวงศ์ ผู้สื่อข่าวประจำจ.สมุทรสงคราม