รับสงกรานต์ พ่อค้าเตรียมเนื้อวัว-ควายตากแห้งไว้ขายเป็นของฝาก แม้ราคาลดลง แต่กลับขายไม่ดี จากพิษเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ประชาชนประหยัดขึ้น

วันที่ 11 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ใกล้ถึงวันเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย พบว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่จำหน่ายของฝากต่างๆเริ่มมีการตระเตรียมสินค้าและวัตถุดิบไว้จำหน่ายรองรับประชาชนที่เดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์กันอย่างคึกคัก หวังให้ลูกค้าประชาชนได้แวะซื้อไปเป็นของกินของฝาก  ขณะที่ร้านจำหน่ายเนื้อวัวเนื้อควาย ทั้งสดและแดดเดียวหลายร้าน ซึ่งเป็นย่านขายเนื้อวัวเนื้อควายประจำ 3 แยกไฟแดงหินโคน ตรงข้ามโรงเรียนโคกตะเคียนวิทยา ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และเป็นที่รู้จักดีของประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางผ่านถนนเส้นนี้ หมายเลข 214  เข้าสู่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ชายแดนไทย-กัมพูชา

 

 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปบริเวณดังกล่าว พบพ่อค้าแม่ค้าเร่งกุลีกุจอ ช่วยกันหั่นเนื้อวัวเนื้อควาย ชำแหละไว้ทำเนื้อแดดเดียว และบางส่วนแขวนไว้ขายเนื้อกันแบบสดๆพร้อมกับมีเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ อาทิ ดีวัว หรือเพี๊ยะวัวขายสดๆและแบบสำเร็จไว้จำหน่ายให้ลูกค้าด้วย  นอกจากนี้ยังมีหนังวัว-ควายตากแห้ง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า”หนังเค็ม”ที่ขายเป็นมัดๆในราคามัดละ 50 บาท  ส่วนเนื้อวัว-ควาย ช่วงนี้ราคาลดลง จากเดิม เนื้อสด ราคา ก.ก.ละ 350 บาท เหลืออยู่ ก.ก.ละ 280 บาท  ส่วนเนื้อแดดเดียวตากแห้ง จากเดิมขาย ก.ก.ละ 500 บาท ปัจจุบันเหลือ ก.ก.ละ 400 บาทเท่านั้น ซึ่งราคาวัว-ควายเริมมีราคาตกต่ำลง ตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังมีซากหัววัว-ควายแขวนไว้ขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบนำไปแขวนตกแต่ง ในราคาหัวละ 200-300 บาทขึ้นไป จนถึงหลักพันบาท  แล้วแต่ความสวยงามของเขาและขนาด

อย่างไรก็ตาม หลังจากราคาเนื้อวัว-ควาย เกิดราคาตกต่ำทั่วประเทศ แม้จะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่จะได้กินเนื้อวัว-ควายที่ถูกลง แต่กลับพบว่ายอดขายต่ำกว่าในช่วงราคาวัว-ควายที่มีราคาสูง โดยพ่อค้าแม่ค้าต่างบ่นอุบว่า เป็นเพราะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ประชาชนใช้จ่ายอย่างประหยัดกันมากขึ้น จึงลดกำลังซื้อ

 

 

 

 

 

นางไพลิน  ทองใสศร แม่ค้าขายเนื้อวัว-ควาย อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.2 บ.หินโคน ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนเปิดร้านขายเนื้อวัว-ควายมา 10 กว่าปีแล้ว ช่วงนี้ตั้งแต่หลังปีใหม่ราคาเนื้อวัว-ควาย ลดลง เดิมขายเนื้อสดราคา ก.ก.ละ 320 บาท ตอนนี้เนื้อสดเหลือ ก.ก.ละ 280 บาท  ส่วนเนื้องแห้งเดิมราคา ก.ก.ละ 500 บาท ตอนนี้ขาย ก.ก.ละ 400 บาท  หลังราคาเนื้อลดลง ก็พบว่าลูกค้าก็ลดลงตาม น่าจะเกิดจากเศรษฐกิจไม่ดี คนไม่ค่อยมีเงิน ใช้จ่ายประหยัดขึ้น จากที่เคยซื้อคนละ 1 ก.ก.500 บาท หรือ 2-3 ก.ก.ขึ้น ทุกวันนี้ซื้อคนละ 100-150 บาท ให้แต่พอได้กิน  ส่วนหนังวัว-ควายแห้ง หรือหนังเค็ม ขายมัดละ 50 บาท  เอาไปเผาทำแกงขี้เหล็ก หรือเผาทุบกินแกล้มเหล้า ทำได้หลายอย่าง ส่วนซากหัวก็มีหลายขนาดหลายราคา เขางามๆก็หลักพัน ถ้าไม่สวยก็ 200-300 บาท นอกจากนี้ก็ขายดีวัวเสริม  ซึ่งในช่วงเทศกาลต่างๆจะพบว่ามีลูกค้าแวะซื้อเนื้อกลับบ้านไปทานกับครอบครัวและเป็นของฝาก กว่า 2 เท่าตัว  ส่วนเนื้อที่ขายจะต้องชำแหละวัวหรือควาย 1 ตัว ต่อ 2 วัน  ซึ่งก็หาซื้อตามหมู่บ้านต่างๆ เมื่อก่อนเศรษฐกิจดีๆขายวันละหลายสิบกิโลถึงร้อยกิโลขึ้นก็มี ช่วงนี้เงียบๆขายไม่ค่อยดีนัก ก็ขอฝากถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ผ่านเส้นทางนี้ ไปทางตลาดชายแดนช่องจอม ก็ให้ช่วยแวะซื้อไปเป็นของฝากของกินด้วย อยู่ใกล้ 3 แยกไฟแดงหินโคน แม่ค้าฯกล่าว

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว นพรัตน์  กิ่งแก้ว  ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์