HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

แบนบุหรี่ไฟฟ้า 10 ปี แต่วิกฤตบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กพุ่ง ชี้ บุหรี่ไฟฟ้าเกลื่อนตลาด แม้รัฐเร่งปราบปราม

เพจ ‘มนุษย์ควัน’ ตั้งคำถามเนื่องใน ‘วันงดสูบบุหรี่โลก’ เหตุสถานการณ์ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ วิกฤต หลังพบกรณีเด็กและเยาวชนซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนเกลื่อนเมือง แม้รัฐเร่งปราบปราม พร้อมยกผลสำรวจจากภาครัฐชี้เยาวชนไทยใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 5.3 เท่าภายในเวลาไม่ถึงสิบปี ชี้บุหรี่ไฟฟ้าเติบโตตามแนวทางส่วนใหญ่ของโลกที่ให้ถูกกฎหมาย การเน้นปราบปรามอาจไม่ใช่ทางออก

นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ “มนุษย์ควัน” ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.6 หมื่นคน ได้โพสต์ข้อความว่าด้วยเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าและวันงดสูบบุหรี่โลกว่า “วันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้หน่วยงานไทยมาในธีมบุหรี่ไฟฟ้า(อีกแล้ว) ปี 67 นี้ครบรอบ 10 ปีที่ประเทศไทยแบนบุหรี่ไฟฟ้าพอดี มีใครอยากเสนอคำขวัญที่สะท้อนความจริงกว่า ‘ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า’ มั้ยครับ?”
นายสาริษฎ์ยังเผยอีกว่า “ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้จะเป็นวันงดสูบบุหรี่โลกประจำปี 2567 โดยมีคำขวัญประจำปีนี้ว่า ‘ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า’ ผมจึงอยากถือโอกาสนี้พูดถึงเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าสักหน่อย”
“นับตั้งแต่ที่ประกาศแบนบุหรี่ไฟฟ้าไปเมื่อปี 2557 ขณะนี้ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ของการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว แต่เชื่อว่ามีประชาชนคนไทยไม่น้อยที่งงกับคำกล่าวนี้ หลายคนถึงกับถามว่าประเทศไทยยังแบนบุหรี่ไฟฟ้าอยู่เหรอ นั่นก็เพราะประกาศแบนนั้นไม่สามารถจัดการปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในสังคมได้จริง ไม่ว่าจะด้วยความหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมาย หรือประเด็นของการทุจริตคอรัปชัน”

“ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งการรณรงค์และปลูกจิตสำนึก ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ผมเองก็เห็นด้วยว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ของสำหรับเด็กหรือคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่มาก่อน ทว่าความรุนแรงของปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในสังคมไทยในปัจจุบันนั้นน่าเป็นห่วงเกินกว่าที่การรณรงค์ เดินขบวน จัดงานวิ่ง จัดงานปั่นจักรยาน หรือเสวนาจะแก้ไขได้ทัน ในปัจจุบันนี้ตัวเลขจากผลสำรวจของภาครัฐชี้ว่าอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กไทยอายุ 13 ถึง 15 ปี มีเด็กและเยาวชนใช้บุหรี่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.3 ในปี 2558 เป็นร้อยละ 17.6 ในปี 2565 ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นกว่า 5.3 เท่าภายในเวลา 7 ปี”
“นั่นชี้ให้เห็นว่า ขณะที่กฎหมายแบนบุหรี่ไฟฟ้าออกมา 10 ปีแล้ว อัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนก็พุ่งขึ้นสวนทางกับที่ใครๆ คาดหวัง” นายสาริษฎ์กล่าว
“เมื่อวันก่อนสดๆร้อนๆ หน่วยงานได้จับกุมร้านค้าบุหรี่ไฟฟ้าที่มีลูกค้าและผู้ขายเป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นได้แทบทุกวันจากหน้าข่าว การจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าไม่เคยหายไปเพราะมีบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่ามหาศาลหลายล้านบาทที่ทะลักเข้ามาจากประเทศจีนโดยไม่มีการตรวจสอบ จะดีกว่าไหมถ้าประเทศไทยมีกฎหมายมาควบคุมอายุผู้ซื้อผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้าเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่”
นายสาริษฎ์ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ขณะนี้จะมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า แต่ตนและผู้สูบบุหรี่ไทยอีกนับสิบล้านรายก็ได้แต่คาดหวังว่าผลพิจารณาจะแตกต่างจากเดิม เพราะแบนมา 10 ปีเหมือนไม่แบน สู้เอากฎหมายมาควบคุมให้มีการกำหนดอายุผู้ซื้อ ผู้ขาย ป้องกันการเข้าถึงของเด็กอย่างเข้มงวด เหมือนกว่า 70 ประเทศทั่วโลกที่กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายจะควบคุมได้ดีกว่า