HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

ระทึก รถทัวร์พุ่งชนรถบรรทุกตู้ทึบหกล้อ คนขับรถทัวร์ติดภายใน โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีผู้โดยสารเจ็บ 6 ราย

เมื่อเวลา 14.00น. วันนี้ 31 พฤษภาคม 2567 พันตำรวจตรีวุฒิพงศ์ ตาลำ สารวัตร(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรบ้านบึงได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง ว่าเกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสารชนกับรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ช่วงยูเทิร์นต้นแก้ว ถนนสาย 344 ฝั่งขาเข้าหนองชาก หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางเข้าที่เกิดเหตุพร้อมด้วยทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลบ้านบึง อาสากู้ภัยและอุปกรณ์ตัดถ่าง ที่เกิดเหตุอยู่ช่วงยูเทิร์นต้นแก้วฝั่งขาเข้าหนองชาก หมู่ 1 ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี

โดยรถบรรทุก 6 ล้อ จอดขวางถนนเต็มเลนสองเลน และมีรถโดยสารชนเข้าบริเวณเกือบกลางตัวรถบรรทุก ผู้โดยสารรวมกับคนขับจำนวนทั้งหมด 19 ราย ที่มากับรถโดยสารประจำทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นผู้โดยสารจำนวน 6 ราย แยกเป็นหญิง 4 รายและผู้ชาย 2 ราย ส่วนคนขับรถบัส ที่บาดเจ็บติดภายใน อยู่กับที่นั่งของคนขับ ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆไม่รับบาดเจ็บแต่อยู่ในการตกใจได้ทยอยลงออกจากรถที่ประสบเหตุ ก่อนจะมีรถ บัสโดยสารมารับขึ้นรถ ส่งผู้โดยสารตามที่หมายปลายทาง ส่วนผู้บาดเจ็บทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านบึง เหลือเพียงคนขับรถบัสโดยสาร ที่ยังต้องใช้อุปกรณ์ตัดทางนำร่างออกมาใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถนำตัว คนขับที่บาดเจ็บออกมาได้ เบื้องต้นมีอาการทางกระดูกที่ขาฝั่งขวาถลอกตามร่างกายยังพูดคุยรู้เรื่อง ชื่อต่อมาชื่อนายนรา เมืองลาย อายุ 61 ปี เผยว่า ตนขับรถบัสทะเบียน 10-0874 จันทบุรี เลขข้าง 917-12 กรุงเทพ – ตราด เดินทางรับผู้โดยสารจากกรุงเทพมุ่งหน้าจังหวัดตราด ผู้โดยสารจำนวน 18 ราย รวมตนเองคนขับ เป็น 19 คน ระหว่างกำลังขับถึงที่เกิดเหตุก็เกิดชนกับรถบรรทุก 6 ล้อที่เลี้ยวยูเทิร์นข้างหน้า

ส่วนทางด้านนายสงกรานต์ โยธาพิทักษ์ อายุ 56 ปี คนขับรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบยี่ห้อฮีโน่หัวสีขาวทะเบียนเจ็ดศูนย์-3431 ปราจีนบุรี คนขับ ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตนเองขับรถมาจากหนองชากจะเลี้ยวยูเทิร์นกลับรถ เพื่อเข้าซอยไปส่งสินค้าให้ลูกค้าในซอยซีแพคที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่ไกล ขับตามหลังรถบรรทุกโม่ปูนระหว่างเลี้ยว มีรถบัสโดยสารพุ่งชนเข้ากลางตัวรถจนมีผู้บาดเจ็บหลายรายอย่างที่เห็น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้บันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานและจะเรียกผู้ขับขี่รถทั้งสองคันมาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุที่แท้ชัด ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป