HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

สตม. จับกุมนักธุรกิจอิหร่านโกงเพื่อนร่วมชาติฮุบขายที่ดินบริษัท และจับกุมชาวออสซี่โยงคดีเก่ามาเฟียในภูเก็ตหนีกบดานหมู่บ้านหรูกลางเมืองพัทยา

ตามนโยบายของ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอ ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดําเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พํานักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทําผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทําให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทย เป็นฐานในการกระทําความผิด

วันนี้ (5 มิ.ย.67) เวลา 13.30 น. ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.คธาธร คําเท่ียง รอง ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดํารงชัย 3, พ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ ใจเที่ยงแท้ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ท.อิธิธร ประเสริฐศักด์ิ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ท.วิรชา สน่ันศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสําคัญ ดังนี้ 1. สตม.รวบนักธุรกิจอิหร่านโกงเพื่อนร่วมชาติฮุบขายที่ดินบริษัท ความเสียหายมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 และ ผกก.สส.บก.ตม.3 สั่งการให้ กก.สส.บก.ตม.3 จับกุม MR.ABUL (นามสมมติ) อายุ 61 ปี สัญชาติอิหร่าน ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.236/2567 ลง 20 พ.ค.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน แจ้งความเท็จ, แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ, ลงข้อความเท็จในเอกสารของบริษัท เพื่อลวงให้ห้างหุ้นส่วน บริษัท ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้น ขาดประโยชน์อันควรได้ นําตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ดําเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งย่าน ถ.ร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้ดําเนินคดีกับ MR.ABUL (นามสมมติ) อายุ 61 ปี สัญชาติอิหร่าน โดยแจ้งว่า MR.ABUL ได้แก้ไขข้อความอันเป็นเท็จลงในบันทึก รายงานการประชุมของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ตนเองมีอํานาจขายที่ดินของบริษัทซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ในนามของ MR.ABUL ได้ทําให้บริษัทรวมถึงหุ้นส่วนของบริษัทได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 21 ล้านบาท หลังจากขายแล้วได้บ่ายเบี่ยงว่าตนไม่ทราบและหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความ ต่อมาพนักงานสอบสวน ตลอดจนประสานข้อมูลกับทาง กก.สส.บก.ตม.3 จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติ ศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับ MR.ABUL ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ, แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จใน เอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ, ลงข้อความเท็จในเอกสารของบริษัท เพื่อลวงให้ห้างหุ้นส่วน บริษัท ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้น ขาดประโยชน์อันควรได้นั้น ต่อมา กก.สส.บก.ตม.3 สืบทราบว่า MR.ABUL ได้หลบหนีหมายจับมาซ่อนตัวอยู่ที่ห้องพักในคอนโด แห่งหนึ่งย่าน ถ.ร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จึงไปตรวจสอบจนพบตัวอยู่ที่ดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวและหมายจับเข้าจับกุม MR.ABUL นําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ดําเนินคดีตามกฎหมาย

2. สตม.รวบหนุ่มใหญ่ออสซี่โยงคดีเก่ามาเฟียในภูเก็ตหนีกบดานหมู่บ้านหรูกลางเมืองพัทยา พบประวัติอาชญากรรมเพียบในออสเตรเลีย กก.สส.บก.ตม.3 ควบคุมตัว Mr.Grey (นามสมมติ) อายุ 52 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งถูกเพิกถอน การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นผู้มีพฤติการณ์เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมชาวต่างชาติ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต สร้างความเดือดร้อนให้กับคนในพื้นที่ และเป็นผู้มีประวัติอาชญากรรมเคยก่อเหตุมีโทษจําคุกที่ออสเตรเลียในคดียาเสพติดและความผิดอื่นๆ ที่เป็นภัยต่อสังคม รวมทั้งมีหมายจับในข้อหาลักลอบค้าสารเสพติด และมีสารเสพติดไว้ในครอบครอง นําตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดําเนินการตามกฎหมาย สืบเนื่องจาก สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ได้ทําการจับกุมตัวชายชาวอังกฤษพกพาอาวุธปืนเข้าผับ จากการสืบสวนขยายผลพบว่า Mr.Grey มีพฤติการณ์เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวต่างชาติในพื้นที่ จึงได้ร่วมกับ ตม.จว.ภูเก็ต สืบสวนจนปรากฏข้อมูลเพิ่มเติมว่า Mr.Grey เป็นบุคคลผู้มีประวัติอาชญากรรม และมีโทษจําคุกที่ออสเตรเลียหลายคดี ทั้งคดียาเสพติดและ ความผิดอื่นๆ ที่เป็นภัยต่อสังคม รวมทั้งมีหมายจับที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ในประเทศออสเตรเลียในข้อหาลักลอบ ค้าสารเสพติดและมีสารเสพติดไว้ในครอบครอง จึงได้รายงานพฤติการณ์ดังกล่าวของ Mr.Grey ไปยังกองการต่างประเทศ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และ บก.ตม.6 เพื่อพิจารณาดําเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต่อมาจากการพิจารณาของ บก.ตม.6 เห็นว่า Mr.Grey มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือเป็นบุคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ Mr.Grey ต่อมา Mr.Grey ได้ไหวตัวและหลบหนีออกจากพื้นที่ จ.ภูเก็ต ภายหลัง กก.สส.ตม.3 ได้สืบสวนจนกระทั่งทราบว่าได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จึงใช้เทคนิคทางการสืบสวนจนพบว่า Mr.Grey หลบมาพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จึงได้เข้าแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร (ตม.83) และควบคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม.เพื่อดําเนินการตามกระบวนการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรและขึ้นบัญชีเป็นคนต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทําความผิด ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทําความผิด กรุณาแจ้งมายัง สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง