ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับนักสืบ TOP G ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนทราบว่า มีคนร้ายชื่อ นาย ชิต ท่าศาลา หนึ่งในแก๊งทวงหนีโหด ที่ร่วมกับพวกอีก 2 คน ก่อเหตุทวงหนี้โหด ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ เตะประตูบ้าน ปิดสวิทช์ไฟฟ้าบ้านลูกหนี อีกทั้งยังล็อกประตูขังลูกหนีไม่ให้ออกจากบ้าน โดย ศาลอาญามีนบุรี ได้อนุมติหมายจับ ศาลอาญามีบุรี ที่ จ 1016/2567 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอันตราที่กฎหมายกำหนดไว้ , ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ขู่เข็ญฯ ”
ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่านายชิต ท่าศาลา เป็นแก๊งค์ทวงหนีโหดแก๊งเดียวกับแก๊งทวงหนี้ที่รุมทำร้ายยายวัย 73 ท้องที่ สน.โชคชัย ซึ่งก่อเหตุและถูกจับกุมตัวได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากการรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับนักสืบ TOP G รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่ไม่เกรงกลับต่อกฎหมาย และเป็นภัยต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เดือดร้อนเนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง