เปิดเข้าชมเรือสำเภา Amerigo Vespucci ที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือที่สวยที่สุดในโลก

วันที่  6 พ.ย. 2567 ณ ท่าเรือน้ำลึก (อ่าวมะขาม) จังหวัดภูเก็ต นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางบุษดี สุวรรณรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต, นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กรมการกงสุลและกลุ่มสื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ต ชุดแรกที่เข้าเยี่ยมชมเรือสำเภา Amerigo Vespucci ที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือที่สวยที่สุดในโลก สัญชาติอิตาลี ที่เข้ามาจอดเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต อ่าวมะขามตำบลวิชิตอำเภอเมืองภูเก็ตจังหวัดภูเก็ต แล้ว ตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 5 พฤศจิกายน และในวันนี้เป็นวันแรกที่เปิดโอกาสให้ประชาชนและชาวต่างประเทศที่ลงทะเบียนในระบบไว้ เข้าเยี่ยมชมได้เป็นวันแรก ตั้งแต่เวลา 16:00 น. เป็นต้นไปถึง 19:00 น. และจะมีไปจนถึงวันที่ 10 พ.ย. นี้ อย่างไรก็ดีหากประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศพี่พลาดโอกาสในการกรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์เข้าเยี่ยมชมเรือยังสามารถ Walk in ได้ทุกวัน และเจ้าหน้าที่ประจำเรือจะพิจารณาให้เข้าเยี่ยมชมตามความเหมาะสม หลังจากนั้นเรือจะมุ่งหน้าไปจอดทอดสมอที่มุมไบเมืองหลวงของรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย โดยมีนายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยพร้อมด้วยกัปตันเรือและลูกเรือร่วมต้อนรับและนำชมเรือ ในพื้นที่สำคัญต่างๆโดยมีพี่น้องประชาชนชาว จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง ชาวต่างประเทศและ นักท่องเที่ยวที่อยู่ภูเก็ต รอเข้าชมเรืออย่างตื่นตาตื่นใจเป็นจำนวนมาก จนส่งผล ทำให้ระบบการจองเข้าชมเรือเต็มจำนวนอย่างรวดเร็วอย่างไรก็ดี ทางกัปตันเรือยังให้โอกาสผู้ที่ลงทะเบียนจองไม่ทัน สามารถ Walk in เข้ามาได้เลย แต่อาจไม่สามารถขึ้นมาบนเรือได้ทุกคน

นายเปาโล ดีโอนีซีเอกอัคร ราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยกล่าวว่านับเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญหรือครั้งแรกที่เรือสำเภา Amerigo Vespucci มาเยือน จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย หลังจากที่เรือลำนี้ประจำการในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 และตระเวนไปยังน่านน้ำต่างๆ 5 ทวีปทั่วโลกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหลายสิบปี และออกจากท่าเรือเมืองเจนัวร์ ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. 2566 และจะเดินทางกลับประเทศอิตาลีในวันที่ 25 มิ.ย. 2568 และโดยส่วนตัว เป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศไทยจึงมีความรักประเทศไทยเป็นทุนอยู่แล้วประกอบกับเป็นการเรียกร้องจากลูกเรือว่าอยากจะมาเยือนที่ภูเก็ตประเทศไทยสักครั้งหนึ่ง และการมาเยี่ยมเยือนภูเก็ต ในครั้งนี้ ยังบ่งบอกถึงการที่ ประเทศอิตาลีและประเทศไทย มีความสัมพันธ์ที่ดี ต่อกันอย่างแน่นแฟ้น เป็นเวลานานถือ 156 ปี สำหรับก่อนที่เรือจะมาแวะจอดที่ภูเก็ต มาจากท่าเรือเบลาวัน เมืองเมดาน จังหวัดสุมาตราเหนือประเทศอินโดนีเซียโดย มีตัวแทนนักเรียนนายเรือไทยจำนวน 8 นายเข้าร่วมฝึก ภาคสนามกับลูกเรืออิตาลีปรากฏว่าการฝึกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสมบูรณ์เนื่องจากนักเรียนนายเรือไทยมีทักษะความรู้ความสามารถและสามารถทำงานร่วมกับลูกเรืออิตาลีได้เป็นอย่างดี

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่าในนามของจังหวัดภูเก็ตประเทศไทยมีความยินดีที่ได้ต้อนรับเรือสำเภาลำนี้ เพราะประเทศไทยและประเทศอิตาลีมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแล้ว และเนื่องในมหามงคลวโรกาสวันวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจัดงานกาลาดินเนอร์ในคืนวันที่ 8  พ.ย. นี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติโดยจะมีการเดินแบบในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย เรีอสำเภาลำนี้ เป็นเจ้าของฉายาว่า “เรือใบที่สวยที่สุดในโลก”the most beautiful ship in the world สร้างขึ้นเมื่อปี 1930 หรือมีอายุ 94 ปีในปัจจุบัน สำหรับฝึกทหารเรือของอิตาลี กำลังเดินทางแล่นกางใบไปน่านน้ำรอบโลกเพื่อเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมของอิตาลี โดยจะแวะให้ผู้สนใจเข้าชมตามเมืองท่าสำคัญต่างๆ 15 แห่ง โดยบนเรือ นอกจากจะเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานแล้ว ยังมีภัตตาคารอิตาเลี่ยน และรายการบันเทิงต่างๆ สำหรับผู้สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอิตาลีอีกมากมายด้วย ในขณะเดียวเรือ ลำนี้เปรียบเหมือนกับหมู่บ้านอิตาเลี่ยนจะจัดฉายภาพยนตร์อิตาเลี่ยนที่มีชื่อเสียงถึง5เรื่อง จัดแสดงนิทรรศการ, รวมถึงคบเพลิงโอลิมปิกจากมหกรรมโอลิมปิกครั้งแรกๆ ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ รวมถึงรูปสำริด La David ผลงานของสถาปนิกอิตาเลี่ยน จาโก โดยตีความจากผลงานประติมากรรมระดับโลกของไมเคิล แอนเจโล่

จิระชัย เกษมพิมลพร /จ.ภูเก็ต