สพฐ. ชื่นชม รร.พญาไทและเครือข่าย เร่งเติมสมรรถนะผู้เรียน สร้างคุณภาพเด็กเข้มแข็งรอบด้าน

วันที่ 26 มกราคม 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ได้ตรวจเยี่ยมและมอบแนวทางการดำเนินงาน ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาหลักสูตรบูรณาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน โรงเรียนพญาไท“ ณ ห้องประชุมศรีพญาไท โรงเรียนพญาไท โดยมี นายเอกวัฒน์ ล้อสุนิรันดร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน ผศ.ดร.ดนุชา ปนคำ เป็นวิทยากร และมีผู้เข้าร่วมประชุมจาก สวก.สพฐ. ได้แก่ นางสาวโชติมา หนูพริก รอง ผอ.สวก. รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้ นายเอกสิทธิ์ ปิยะแสงทอง ผอ.กลุ่มพัฒนาการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ นางนันทิการ์ กันยามา นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ นายสถาพร ยูโซ๊ะ นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ รวมถึง ดร.กุศลิน มุสิกุล รอง ผอ.สสวท. และผู้บริหาร คณะครูโรงเรียนพญาไท โรงเรียนบางบัว และโรงเรียนดาราคาม เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้ จัดโดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (สวก.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับโรงเรียนพญาไท มีเป้าหมายเพื่อจัดทำสมรรถนะผู้เรียนของโรงเรียนและเครือข่าย เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ นำโดยพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงศ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีกิจกรรมการดำเนินการ ประกอบด้วย การบรรยายและฝึกปฏิบัติการในหัวข้อ “การจัดทำหลักสูตรที่ส่งเสริมสมรรถนะผู้เรียน”, “การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน” และ “การวัดประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน” เป็นต้น

โอกาสนี้ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า ขอชื่นชมผู้บริหารและคณะครูทุกท่านที่ได้ร่วมใจกันจัดทำหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ และการวัดประเมินผล ที่จะพัฒนาสมรรถนะและการเรียนรู้ของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น ประเด็นที่ขอฝาก คือ ทำอย่างไรที่จะเติมสิ่งที่โรงเรียนมีอยู่เพื่อได้คุณภาพอย่างเต็มที่ และเติมในสิ่งที่ขาดเพื่อให้เด็กได้รับโอกาสที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก องค์ความรู้ที่ให้เด็กแสวงหาด้วยตัวเองนั้นมีมากแต่ไม่สามารถบอกได้ว่า เด็กจะได้รับการกรองสิ่งที่จะเป็นอันตรายเข้ามาผ่านแหล่งความรู้ต่าง ๆ ด้วยหรือไม่ ในฐานะที่เป็นครู เราต้องทำให้เด็กเกิดทักษะในกระบวนการคิด และสามารถนำไปเป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิตได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การท่องจำ แต่ให้เด็กคิดได้ด้วยตนเองและเชื่อมโยงองค์ความรู้ได้ และอีกสิ่งหนึ่งในปัจจุบัน เด็กมีความอ่อนไหวทางจิตใจเป็นอย่างมาก คำพูดแค่ 1 ประโยคของครูที่พูดออกไป อาจกระทบจิตใจของเด็กได้ ดังนั้น ต้องส่งเสริมให้เด็กเห็นคุณค่าในตนเอง เด็กทุกคนต้องมีเวทีในการคิด สามารถเชื่อมโยงและใช้ชีวิตด้วยตนเองได้อย่างดี มีหลักในการดำเนินการ ใช้ทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัวเป็นหน่วยความรู้ที่เติมเต็ม จนพัฒนาไปสู่ขั้น Apply และ Create ได้ง่ายขึ้น

“สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ง่าย ผ่านการจัดรูปแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการ ทำให้เด็กมีความสุข สนุกกับการเรียนรู้ ส่วนการประเมินผลให้ดูที่ค่าการพัฒนา ซึ่งเปิดโอกาสค่าการพัฒนาได้ทุกรูปแบบ สิ่งที่สำคัญคือให้นักเรียนได้เจอทุกสถานการณ์ด้วยตนเองเพื่อให้มีฐานของการแก้ปัญหา รู้ว่าจะต้องเดินไปอย่างไร อะไรที่จะทำให้เขามีความสุข และเข้มแข็งต่อไปในอนาคตได้ ทั้งหมดนี้จะทำให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ ใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติสุขและยั่งยืน เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการศึกษาอย่างแท้จริง” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว