สพฐ. ระดม 47 โรงเรียนต้นแบบ และผู้เชี่ยวชาญ สร้างภูมิจิตใจนักเรียน ผ่านเพื่อนที่ปรึกษา(YC) สร้างความสุขในวัยเรียน

วันที่ 31 มกราคม 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการถอดบทเรียนความสำเร็จสถานศึกษาต้นแบบการแนะแนวนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) วิถีใหม่ ปีการศึกษา 2567 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีครูแนะแนว/ครูผู้รับผิดชอบงานแนะแนวจากสถานศึกษาต้นแบบการแนะแนวนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) วิถีใหม่ ปีการศึกษา 2567 จำนวน 47 แห่ง เข้าร่วมการอบรม ระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมบางกอกพาเลส เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อถอดบทเรียนสถานศึกษาที่มีความเข้มแข็งและเป็นสถานศึกษาต้นแบบการแนะแนวนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) ส่งเสริมให้สถานศึกษาทุกแห่งได้นำไปเรียนรู้และปรับประยุกต์การดำเนินกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ตามบริบทของสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักเรียนมีสุขภาวะที่ดี โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมเป็นวิทยากร ได้แก่ พ.ญ.วรินทิพย์ สว่างศรี รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ รศ.กรกฎา นักคิ้ม คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รศ.เจษฎา บุญมาโฮม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐ และ ผศ.ดร.พัชรี ถุงแก้ว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า ตามกระแสข่าวที่เราได้เห็นกันทุกวันนี้ สภาพจิตใจเด็กมีความเปราะบางแตกต่างกันไปตามบริบท สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้พวกเขามีภูมิต้านทานชีวิต สามารถก้าวข้ามอุปสรรคได้ ดังนั้น การแนะแนวเป็นนโยบายที่สำคัญของกระทรวงศึกษาธิการและเป็นจุดเน้นที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานขับเคลื่อนลงสู่นักเรียน สำหรับนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC เป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นกลไกที่เข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกัน นำพาไปสู่คุณภาพการดำรงชีวิตที่ดี สภาวะแวดล้อมที่เด็กได้มีการระบาย ได้มีตัวตน กิจกรรมนำให้นักเรียนเห็นคุณค่าของตนเองและก้าวข้ามสิ่งที่เป็นอุปสรรคได้ สิ่งที่จำเป็นอีกเรื่องคือ นักเรียนที่ได้รับเลือกให้เป็น YC ต้องคำนึงถึงขีดจำกัดในการรับรายละเอียด หรือเทคนิคการดึง potential ของเพื่อน ๆ และจากบทบาทของ YC ที่ดีจะสร้างความภูมิใจให้นักเรียนได้เช่นกัน ฉะนั้นการถอดบทเรียน และการประเมินผลทำให้การทำงานต่อไปในอนาคตทั้งของ YC เอง และเด็กที่อยู่ในภาวะความเสี่ยง จะเกิดความเข้มแข็ง และสามารถปรับเปลี่ยนจากที่อยู่ในภาวะเสี่ยงก็กลายเป็นชวนกันไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ และช่วยกันแก้ปัญหาที่มากระทบจิตใจ ทำให้เกิดความสุขในการดำเนินชีวิตได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก

ทั้งนี้ จากรายงานการจัดโครงการจะเห็นได้ว่าจากโรงเรียนต้นแบบมากมายทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จำนวน 47 แห่ง ผนวกกับประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ โมเดลที่เกิดขึ้นจะสามารถเป็นโมเดลที่นำไปใช้ได้จริง และเป็นหลายโมเดลที่เกิดความแตกต่างของแต่ละบริบท ในแต่ละเคสที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา กลายเป็นคู่มือ แนวทางปฏิบัติที่เกิดประโยชน์กับตัวนักเรียน และผู้ปกครองที่สามารถทำให้เด็กรู้สึกมีคุณค่าของตนเอง ทั้งคำพูดของครูหรือคำพูดของผู้บริหาร สร้างแรงจูงใจให้นักเรียนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งสำคัญทั้งสิ้น

“ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมใจกันในจุดนี้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ตรงจิตใจนักเรียนมากที่สุด หากเรายังเป็นครูแนะแนวอย่างเดียว อาจจะช่วยไม่ทัน หรือไม่สามารถช่วยนักเรียนได้ แต่ถ้าได้ YC ที่รู้เท่ามืออาชีพจากเพื่อนนักเรียน จะทำให้เขาเกิดความภาคภูมิใจด้วยโอกาสที่ได้ช่วยเพื่อน เป็นประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกันและเป็นประโยชน์ที่ส่งเสริมให้เกิดต้นแบบ เกิดความสำเร็จทั้งเรื่องจิตใจ และเรื่องอื่น ๆ ในอนาคต หากจิตใจดีมีความสุข ทำอะไรก็จะง่ายขึ้น สามารถเป็นตัวตนของตัวเองได้ ภายใต้สังคมที่อยู่ร่วมกัน สิ่งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์มากและเป็นไปตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ นำโดยพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงศ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพใจของผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งความร่วมมือของทุกคนในวันนี้จะช่วยให้นักเรียน “เรียนดี มีความสุข” และเกิดสติควบคู่ปัญญานำไปสู่ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” ได้อย่างแท้จริง” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว