คืบหน้า ศึกระหว่างวัยรุ่น 14 ลามไปถึงผู้ปกครอง คู่กรณีอีกฝ่ายถือปืนเข้ามอบตัว ยัน!! ไม่มีเจตนายิงใคร

กรณี ศึกระหว่างลูกสาว ลามไปถึงผู้ปกครอง นัดเคลียร์กันริมถนน ก่อนเกิดการกราดยิงกว่า 10 นัด มีคนเจ็บ 3 คน เป็น ชาย 1 หญิง 2 ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น / หลังเกิด นัท อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา (พ่อของเด็กหญิงต้นหอม อายุ 14 ปี) และ เปา อายุ 30 ปี ได้นำ อาวุธปืน ขนาด 9 มม. และ อาวุธลูกซอง สไลด์ 5 นัด เข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมกับให้การว่าถูกอีกฝ่ายยิงก่อน จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงสวน โดยยิงปืนใส่ฝ่ายคู่กรณีคนที่ถือปืนเท่านั้น ส่วนคนอื่นตนเองไม่ได้เป็นคนยิง / ล่าสุดเวลา 18.00 น. ( 4 ก.พ.68 )  ใหม่  อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นคนเจ็บถูก นัท อายุ 36 ปี ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ต้นขา จนได้รับบาดเจ็บ และ เป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด นาทีถูกยิงแล้ววิ่งหนีตาย กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนหน้าฝากระโปรงรถกระบะบรรทุกตู้แช่แข็งห้องแช่แข็ง โดยในมือถืออาวุธปืนไว้ตลอด ซึ่งเจ้าตัวให้เดินทางเข้ามามอบตัวกับ พ.ต.ท.จีระศักดิ์ แอบแฝง สว.( สอบสวน ) สภ.หนองปรือ และเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. กล็อก 26 มาให้ตำรวจตรวจสอบ

ใหม่ ให้การในเบื้องต้นว่า ในวันเกิดเหตุตนเอง เป็นห่วงหลาน และ กลุ่มน้องๆ เพราะก่อนหน้านี้ ตนเองรู้ว่า ฝ่ายคู่กรณีที่มีปัญหากัน มีการบุกไปข่มขู่ที่บ้าน และ ที่ทำงาน อีกทั้งยังทราบว่าอีกฝ่าย มีอาวุธปืน จนกระทั่งมีการนัดหมายมาเคลียร์ปัญหากัน บริเวณจุดเกิดเหตุ ด้วยความที่คิดว่า อีกฝ่ายต้องเอาปืนมาแน่ๆ จึงตามไปทีหลัง และพกอาวุธปืนออกมาด้วย เพื่อไว้ป้องกันตัวเท่านั้นพอไปถึงจุดเกิดเหตุ ก็พบว่า กลุ่มของน้องๆ และ หลาน ก็ไปรอคู่กรณีอยู่แล้ว พอตนเองไปจอดรถไม่นาน ฝ่ายคู่กรณีมาถึง ก่อนจะมีการตกลงว่าจะตบกันตัวต่อตัว ในระหว่างที่กำลังตบกัน ตนเองหันไปเห็นชายสวมเสื้อแขนยาวสีดำ ชักปืนลูกซองออกมา จึงตัดสินใจยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อจะระงับเหตุ แต่ปรากฏว่า ตนเองก็ถูกฝ่ายคู่กรณี วิ่งตามมายิงถล่มใส่หลาย 10 นัด ซึ่งตนเองพยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด จนกระสุนเจาะเข้าที่ขาจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งก็เป็นไปตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด

ใหม่  ยังบอกอีกว่า ในเรื่องทางคดี ก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ยืนยันว่า ตนเองไม่มีเจตนา หรือ เตรียมการมาก่อน สิ่งที่ทำลงไปเพราะต้องการจะระงับเหตุเท่านั้น จนเหตุการณ์บานปลายดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าผู้อื่น และ ข้อหาเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน โดยเป็นอาวุธปืนมีทะเบียน จึงถูกดำเนินคดี ข้อหา พกพาไปในทางสาธารณะโดยไม่มีอันควรและยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จากนั้นดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี