ไม่รอดตำรวจไล่ล่าทันทีขโมยตู้บริจาควัดสมานรัตนารามแล้วหลบหนี

วันที่ 22 ก.พ. 2568 สภ.เมืองฉะเชิงเทรา

ภายใต้การอำนวยการของ
พ.ต.อ.ณัฐพล อะกะเรือน
ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
พ.ต.ท.เอกชลิต คำหริ่ง
รอง ผกก.สส.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา

สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกภพ สกุลสยมภู สว.สส.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ,ยาเสพติด , เงินกู้นอกระบบ , หมายจับและอื่นๆ

ดังนี้

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 68 เวลาประมาณ 17.๐๐ น. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุโดยผู้แจ้งได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ #วัดสมานรัตนาราม ม.๑๑ ต.บางแก้ว อ.เมืองฯ พบว่าได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ฯเข้ามาก่อเหตุลักเอาตู้บริจาค จำนวน 1 ตู้ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณข้างกุฏิที่ทำบุญเต่า ภายในวัดสมานรัตนาราม ม.๑๑ ต.บางแก้วฯ แล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าพนักงานผู้จับกุมได้สืบสวน
แสวงหาขอเท็จจริงและหลักฐานจนทราบว่าผู้ต้องหาเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฯ ทราบชื่อต่อมาคือ

นายสงกรานต์ หรือกานต์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 37 ปี ในความผิดฐาน “ ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

พร้อมด้วยของกลาง
๑.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอจำนวน๑ คัน
๒. เสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ
๓.พร้อมนำตัวไปชี้จุดต่างๆในการลักทรัพย์และไปชีัจุดในการทิ้งตู้บริจาค ก็หลบหนี

 

นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
โดยผู้ใหญ่กฤษดา มหาวิริโยทัย ประธานคณะกรรมการวัดสมานรัตนาราม นายสายันต์(จ้อย) ฉัตรมงคล เจ้าหน้าที่วัดสมานรัตนาราม กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ทางวัดสมานรัตนารามก็พยายามประชาสัมพันธ์และสามารถจับกุมผู้ที่เข้ามาลักทรัพย์ภายในวัดได้จำนวนหลายรายก็พยายามที่จะทำความเข้าใจและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำประวัติและปล่อยตัวไปหลายรายแล้วเนื่องจากสงสาร ครอบครัวเดือดร้อน ครอบครัวจะมีปัญหา แต่ในครั้งนี้ถือว่ากระทำการเกินไปบังอาจมายกตู้บริจาคไปทั้งตู้ในเวลากลางวันแสกๆจึงต้องแจ้งความดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างกับคนอื่นต่อไปฯ

อาษา/ปรีญาภรณ์/ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา