คึกคัก พิธีบวงสรวง งานประเพณีสืบสานตำนานปราสาทภูมิโปน โบราณพันปี เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ด้านคอหวยไม่พลาด เเห่ส่องเลขเด็ด

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2568 เวลา09:09น. ที่บริเวณปราสาทภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ นายล้ำเลิศ พัวพัฒนโชติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุรินทร์ เขต 6 , น.ส.ธัญพร มุ่งเจริญพร” นายก อบจ.สุรินทร์ , นายอภิวัฒน์ พัวภัทรพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลดม ,นางสาวณิชาภา พัวพัฒนโชติ สมาชิกสภาจังหวัดสุรินทร์ , กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ประชาชนชาวอำเภอสังขะ พร้อมด้วย นางสาววรัญญา หอมจันทึก”ธิดาผ้าไหมเมืองสุรินทร์ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2568 “Miss Surin Silk Model 2025” น.ส.รสิตา เชิดโฉม รสิตา เชิดโฉม มิสแกรนด์ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกต เเละน้องอิงฟ้า จุฑารัตน์ ธิดาประเกือม2563 ได้เข้าร่วมงาน “ประเพณีสืบสานตำนานปราสาทภูมิโปน” ครั้งที่ 26 ณ บริเวณปราสาทภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสืบสานประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่นแบบเขมรโบราณ และร่วมประชาสัมพันธ์แหล่งโบราณสถาน “ปราสาทภูมิโปน” ซึ่งเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

โดย นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้ เป็นการสืบสานประเพณีและศิลปวัฒนธรรมของตำบลดม ซึ่งเป็นประเพณีและวัฒนธรรมแบบเขมรโบราณ พิธีบวงสรวงเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูต่อบรรพชนที่ล่วงลับไปแล้ว มีการประกวดอาหารพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนของดีตำบลดม โดยเฉพาะผ้าไหมลายภูมิโปน

 

 

 

 

 

 

 

ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลดม ได้จัดงานประเพณีสืบสานตำนานปราสาทภูมิโปน ขึ้นเป็นครั้งที่ 26 โดยในช่วงเย็น จะมีการเดินแบบแฟชั่นผ้าไหม การแสดงแสง สี เสียง ตำนานเนียง ด็อฮฺ ธม ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา

ทั้งนี้ในพิธีบวงสรวงปราสาทภูมิโปน ชาวบ้านได้จุดธูปเสี่ยงทาย ขอโชคลาภ เพราะที่ผ่านมานั้นเวลาจัดพิธีบวงสรวง ชาวบ้านก็มักจะได้รับโชคลาภจากพิธีดังกล่าวอยู่เป็นประจำ ซึ่งการจุดธูปเสี่ยงทายในวันนี้ ปรากฏได้เลข 874 ต่างพากันนำเลขเด็ดดังกล่าวไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้ หวังว่าจะโชคดีรับปีใหม่ไทยกันอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

สำหรับปราสาทภูมิโปน มีตำนานเล่าขานกันว่า กษัตริย์ขอมองค์หนึ่งได้สร้างเมืองลับไว้กลางป่า ชื่อว่าปราสาทภูมิโปน ต่อมาเมื่อเมืองหลวงเกิดความไม่สงบมีข้าศึกมาประชิดเมือง กษัตริย์ขอมจึงส่งพระราชธิดาพร้อมไพร่พลจำนวนหนึ่งมาหลบซ่อนลี้ภัยที่ภูมิโปน พระราชธิดานั้นมีพระนามว่า พระนางศรีจันทร์ หรือ เนียง ด็อฮฺ ธม แต่คนทั่วไปมักเรียกนางว่า พระนางนมใหญ่ แต่ด้วยกิตติศัพท์ความงามของนางเป็นที่โจษขานไปทั่ว จึงเป็นที่หมายปองของพระราชาเมืองต่างๆ ที่ต้องการพระนางมาเป็นพระชายา แต่แล้วก็มีชายหนุ่มเพียง 2 คน คือเจ้าชายโฮลมา แห่งเมืองโฮลมา และนายบุญจันทร์ ทหารคนสนิท ที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดและสร้างสายสัมพันธ์

กล่าวโดยย่อ ชายหนุ่มที่มาผูกพันพระนางแต่ละคนนั้น คนหนึ่งแม้จะเพียบพร้อมก็มีความอัปลักษณ์ คนหนึ่งก็มีความต่างศักดิ์ด้านชนชั้นจนไม่อาจจะรักกันได้ และยังมีข้าศึกมาประชิดเมืองหมายจะเอาพระนางไปเป็นชายาอีก พระนางจึงพยายามหลบไปด้านที่มีการยิงปืนใหญ่ ตั้งใจจะโดนกระสุนให้ตาย แต่พระนางก็กลับไม่ตายแต่ได้รับบาดเจ็บ แขนซ้ายหักและมีแผลเหนือราวนมด้านซ้ายเล็กน้อย

 

 

 

เมื่อพระราชาตีเข้าเมืองได้จึงรีบรักษานางไม่ช้าพระนางก็หาย พระราชาจึงเตรียมยกทัพกลับและจะนำพระนางกลับเมืองด้วย พระนางจึงขออนุญาตพระราชาเป็นครั้งสุดท้าย ขอไปอาบนํ้าที่สระลำเจียก และปลูกต้นลำเจียกไว้กอหนึ่ง พร้อมกับอธิษฐานว่าถ้าพระนางยังไม่กลับมาที่นี่ขอให้ต้นลำเจียกอย่าได้ออกดอกอีกเลยหลังจากนั้นพระนางก็ถูกนำสู่นครทางทิศตะวันตก ไปทางบ้านศรีจรูก พักทัพและฆ่าหมูกินที่นั่น(ซี จรูก แปลว่ากินหมู) ทัพหลังตามไปทันที่บ้านทัพทัน (ซึ่งกลายเป็นชื่อบ้านในปัจจุบัน) และเดินทางต่อมายังบ้านลำดวน พักนอนที่นั่น มีการเลี้ยงฉลองรำไปล้มไป รำล้มในภาษาเขมรคือเรือ็ม ดูล ซึ่งเป็นชื่อของ อ.ลำดวนในปัจจุบัน พระนางศรีจันทร์ ไม่ได้กลับไปที่ภูมิโปนอีกเลย ต้นลำเจียกในสระ จึงไม่เคยมีดอกเลย ตราบจนทุกวันนี้

จนเกิดเป็นตำนานปราสาทภูมิโปน “เนียง ด็อฮฺ ธม” ที่เล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน.

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว พูนสิน ยั่งยืน ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์