สพฐ. พร้อมหนุน สพม.ราชบุรี พัฒนาผู้เรียนด้วยเทคโนโลยี AI เติมเต็มศักยภาพเป็นรายบุคคล

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ได้กล่าวทักทายและให้กำลังใจข้าราชการครูและผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ สังกัด สพม.ราชบุรี ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนรู้และการสร้างแบบทดสอบเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านตามแนวทางการประเมินนานาชาติ (PISA) และการประเมินระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET โดยใช้เทคโนโลยี AI ณ ห้องประชุมสัตตบุตย์ โรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ จ.ราชบุรี
สำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว จัดโดย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาราชบุรี (สพม.ราชบุรี) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในโรงเรียนสังกัด สพม.ราชบุรี ให้สูงขึ้นในทุกระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับชาติ และนานาชาติ พร้อมทั้งพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (Personalized Learning) โดยมีเป้าหมาย คือการส่งเสริม สนับสนุน ให้กับครูในสถานศึกษาได้รับการพัฒนาความสามารถด้านการวัดและประเมินผลของผู้เรียนตามแนวทางการประเมินนานาชาติ PISA และการประเมินระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET ของระดับสถานศึกษา รวมถึงการพัฒนาการสร้างแบบทดสอบและพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนตามแนวทางการประเมินนานาชาติ (PISA) และการประเมินระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET โดยใช้เทคโนโลยี AI โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคลากรในสังกัด สพม.ราชบุรี จำนวน 107 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาราชบุรี รองผู้บริหารการศึกษาศึกษานิเทศก์ และครูผู้สอนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงศ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. จากนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ที่ขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาลงสู่นักเรียนเป็นรายบุคคล ตามหลักการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิตและการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล ซึ่งที่ผ่านมา สพฐ. ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาการสร้างแบบทดสอบและพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนตามแนวทางการประเมินนานาชาติ (PISA) และการประเมินระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เรียน “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” เกิดสมรรถนะและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ได้ตามนโยบายอย่างแท้จริง
สำหรับการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาร่วมในการพัฒนานั้น ที่ผ่านมาในการออกข้อสอบครูผู้สอนจะวิเคราะห์หาค่าความยากง่ายของข้อสอบแต่ละข้อผ่านโปรแกรมต่าง ๆ และคำตอบของผู้เรียนจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ครูได้วิเคราะห์ทราบถึงจุดแข็ง จุดอ่อน ของผู้เรียนที่ตอบ คืออะไร เพื่อให้ครูสามารถนำมาวางแผนการสอนได้ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันการใช้ AI จะช่วยอำนวยความสะดวกและช่วยลดภาระครู ถ้าเราได้เรียนรู้การใช้ที่มีประสิทธิภาพ และข้อควรระวังในการใช้ AI ถ้าชุดข้อมูลที่ถูกต้องและมากเพียงพอ จะเปรียบเสมือนมีนักปราชญ์หลาย ๆ คน เป็นผู้ช่วยเรา ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ครูผู้สอนใช้ AI มีชุดข้อมูลที่เราร่วมสร้างซึ่งถูกต้อง จะเปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดรวบรวมองค์ความรู้ที่เป็นคลังความรู้ที่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าชุดข้อมูลมีไม่เพียงพอและไม่ถูกต้อง ในการ Generate ข้อมูล ต้องคำนึงถึงความถูกต้องของข้อมูลก่อนนำไปใช้ต่อยอดต่อไป เราต้องใช้ AI เพื่อเป็นผู้ช่วยในการอำนวยความสะดวก รวบรวม จัดระเบียบข้อมูล นำมาใช้ในการช่วยเตรียมสอนได้
วิธีการสอนของครู ที่จะให้นักเรียนรักการเรียนรู้ รู้วิธีการแสวงหาองค์ความรู้ที่ถูกต้องและสามารถคัดกรองข้อมูล คิดวิเคราะห์ แยกแยะ เชื่อมโยงและสามารถจับประเด็นต่าง ๆ ได้ ทุกเรื่องราว ด้วยเหตุผล และสามารถตัดสินโดยใช้สติและปัญญา ในการลงมือทำ บนพื้นฐานของคำว่า “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ”

“สิ่งสำคัญที่อยากฝากให้ครูทุกคนมองภาพการทำงานไปข้างหน้า จากที่ประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการการนำเสนอของ OECD มองในปี 2040 มีประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ เรื่องของหลักสูตรที่ยืดหยุ่น คือ เป็นหลักสูตรที่สามารถบูรณาการงานต่างๆ ได้โดยการบริหารจัดการการใช้หลักสูตรด้วยตัวเราเองเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์ความรู้ของนักเรียน, การจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง จัดแบบ Active learning นักเรียนต้องมีส่วนร่วม สามารถจับประเด็นและถ่ายทอดออกมาเป็นการสื่อสารให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจได้, เรื่องของการประเมินผล ที่ไม่ใช่ประเมินผลเพื่อตัดสิน แต่ต้องเป็นการประเมินผลที่ส่งเสริมการเรียนรู้ต่อการเรียนของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้สึกที่อยากเรียนต่อไป และเรื่องของครูต้องมีทักษะที่เข้าใจนักเรียนและมีทักษะในด้านดิจิทัล สุดท้ายนี้ ในวันนี้รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่มีโอกาสได้มาเจอทุก ๆ คน และขอเป็นกำลังใจในความทุ่มเทในการทำหน้าที่หลักที่สมบูรณ์ เป็นงานหลักของเราทุกคนที่จะร่วมกันสร้างคน เป็นครูที่เป็นผู้นำสร้างศรัทธาให้ผู้เรียนมีแรงบัลดาลใจต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว