วันที่ 24 พ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปพบ น.ส.เสาวลักษณ์ ประทุมรัตน์ หรือ“น้องน้ำทิพย์” อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่4 สาขาวิชาการตลาด คณะการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช กล่าวว่าสาเหตุที่ตนได้เขียนขอทุนการศึกษาไปยังมูลนิธิยังมีเราสำนักข่าวท็อปนิวส์ ในโคงการตามโครงการ “มูลนิธิยังมีเราสานฝันการศึกษา 2568” เนื่องจากทางบ้านของตนมีฐานะยากจนไม่มีบ้านอยู่ พ่อแม่ไม่มีเงินที่จะส่งให้ตนเองเรียน พ่อ แม่ได้ส่งตนได้เรียนเฉพาะในระดับอนุบาลจนถึง ป.6 เนื่องจากเป็นการศึกษาภาคบังคับและเป็นการเรียนฟรี จากนั้นก็เรียนต่อตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.3 หลังจากที่จบชั้น ม.3 เมื่อจะเรียนต่อในระดับชั้น ม. 4 นางเพ็ญศรี ประทุมรัตน์ อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.เสาวลักษณ์ บอกว่าไม่มีเงินที่จะส่งให้ลูกเรียนต่อ แต่ตนยังอยากจะเรียนต่อก็เลยหางานทำเพื่อส่งตัวเองเรียนสาเหตุที่แม่ไม่อยากให้ตนเรียนเนื่องจากแม่ไม่มีเงินที่จะส่ง เพราะแม่มีลูก 6 คน และตนเป็นลูกคนสุกท้อง ในขณะที่พี่ๆก็ไม่ได้เรียนหนังสือแต่ตนอยากเรียนต่ออยากพัฒนาตัวเองเพื่อที่จะได้ดูแลครอบครัวในวันข้างหน้า จึงตัดสินใจไปสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหาร ในช่วงกลางวันจะไปเรียนส่วนในช่วงหลัง 4 โมงเย็นก็จะกลับมาแต่งตัวอาบน้ำไปทำงาน ในขณะนั้นเรียนอยู่ในระดับชั้นม. 4 จนเรียนจบชั้นม. 6 หลังจากเรียนจบชั้นม. 6 แล้วก็หาของมาขายเป็นครีมกันแดด สครับผิว และตนได้รับทุนที่จะส่งให้ตนเรียนจนจบระดับชั้นปริญญาตรี ในขณะเดียวกันตนได้ร่วมกับเพื่อนเปิดร้านทำเล็บเจลโดยที่ตนจะเป็นลูกมือให้กับเพื่อน จะได้เงินส่วนแบ่งกับเพื่อน ซึ่งเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการทำงานก็จะแบ่งช่วยเหลือดูแลแม่ แต่ละเดือนจะมีรายได้ไม่แน่นอนโดยในวันนี้ตนได้ออกมาเช่าหอพักอยู่เดือนละ 1,800 บาท เพราะสะดวกในการไปเรียน ตอนนี้ตนอาศัยอยู่ที่หอพักเพียงคนเดียว ส่วนแม่ออกไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอก