“ยังมีเรา” สานฝัน น้องชมพู่ อยากเป็นหมอรักษาคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวพรไพลิน เพ็งแจ่ม หรือ น้องชมพู่ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนพิบูงมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เป็น 1 ในผู้ที่เขียนเรียนความขอทุนการศึกษาไปยังมูลนิธิยังมีเรา ในโคงการตามโครงการ “มูลนิธิยังมีเราสานฝันการศึกษา 2568” เนื่องจากทางบ้านมีฐานะยากจน มีความฝันอยากเรียนต่อเป็นหมอ ต่อมา (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของน้องชมพู่ พบว่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว พักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน พ่อ แม่ ลูก น้องชมพู่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบันครอบครัวมีคุณพ่อเป็นเสาหลักในการหารายได้เข้าบ้านโดยเร่งขายไอศกรีมตามโรงเรียนต่างๆ

ส่วนแม่ มีอาชีพรับจ้างเย็บเสื้อผ้า แต่ก็มีรายได้ไม่แน่นอน ครอบครัวจึงมีฐานนะที่ค่อนข้างขัดสนพอสมควร ในแต่ละวันคุณแม่จะให้ค่าใช้จ่ายในการไปโรงเรียนวันละ 60 บาท ซึ่งตนจะแยกเป็นค่าน้ำดื่ม ค่าอุปกรณ์การเรียน และเก็บเป็นค่ารถรับส่งที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน ส่วนอาหารกลางวันตนจะห่อไปจากบ้านเพื่อไปทานที่โรงเรียน น้องชมพู่ ยังบอกอีกว่า ความเป็นอยู่ทุกวันนี้จะว่าลำบากก็ลำบาก แต่ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กไม่เคยคิดน้อยใจกับฐานะของตนเอง ตนเก็บเอาความลำบากนี้มาเป็นแรงผลักดันสู้เพื่อให้สักวัน ชีวิตจะต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ แม้ตอนนี้ครอบครัวจะลำบากในเรื่องของค่าใช้จ่าย แต่ทุกคนในครอบครัวก็กันประยัดช่วยกัน ตนห่อข้าวจากบ้านไปทานที่โรงเรียน ทำเรื่องกู้ กยศ.เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว แม่และพ่อก็จะซื้อกับข้าววันละ 1 ถุง มาทานด้วยกัน บางวันพิเศษก็ออกไปหาอาหารพื้นบ้านห่อไม้ผักริมรั้วมาทานร่วมกัน แต่พ่อกับแม่จะทานนิดเดียวเพราะให้ตนได้ทาน หลายครั้งที่ตนเองเห็นแม่ร้องไห้เพราะขัดสนเรื่องเงิน แต่แม่ไม่เคยพูดบอกตนเลย แต่ตนเองก็รับรู้ได้พยายามช่วยเล็กๆ น้อยๆ ตามที่จะช่วยได้และตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เกรดเฉลี่ยนที่ผ่านมามาอยู่ที่ 3.98 ตนมีความฝันที่อยากจะเป็นหมอ อยากช่วยคนอื่น ช่วยสังคม  น้องชมพู่ ได้กล่าวขอบคุณ มูลนิธิ ยังมีเรา และสถานีข่าวท็อปนิวส์ ที่มอบโอกาสทางการศึกษาให้ตน และขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่สนับสนุนโครงการดีแบบนี้ตนสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน พัฒนาตนเองให้เป็นประชากรที่ดีของสังคมและถ้ามมีโอกาสตนก็อยากส่งต่อโอกาสนี้ให้กับคนอื่นในสังคมต่อไป

ด้าน นางบำเพ็ญ เพ็งแจ่ม อายุ 53 ปี คุณแม่ของน้องชมพู่ บอกว่า ตนภูมิใจกับลูกสาวคนนี้ที่ตั้งใจเรียนแม้จะลำบาก แม่เองก็สู้ตอนนี้รับจ้างเย็บผ้ารายได้ตอนนี้ก็ไม่มีแต่ถ้าได้ก็ 50 – 60 บาท เพราะไม่ค่อยมีใครเอาผ้ามาเย็บ พ่อของน้องก็ขายไอศกรีม รายได้รวมกัน 200 – 300 บาท แต่รายจ่ายก็เยอะทำให้ครอบครัวลำบากไม่มีเงินส่งลูกไปเรียนต่อ ทุกวันนี้ต้องประหยัด ซื้อกับข้าวมาทานวันละถุง บางวันก็ซื้อไข่มาเสริมเป็นวันๆ ทุกวันนี้ก็ภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้ที่ช่วยครอบครัวประหยัดและตั้งใจเรียนมาตลอด แม้ที่ผ่านมาตนจะลำบากมากแค่ไหนตนก็ไม่เคยบอกลูกว่าไม่มีเงินแม้บางวันไม่เหลือสักบาทก็ตาม ตนเองก็จะบอกว่ามี แล้วไปหาหยิบยืมมาให้ไม่เคยบอกว่าไม่มี แม่หาให้ได้เพราะความหวังอยากจะให้ลูกเรียนจบสอบได้ที่ดีๆ อยากให้เป็นหมอตามที่ตั้งใจและ ก็ขอให้เป็นหมอที่ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือประเทศชาติ ทั้งนี้ มูลนิธิยังมีเรา ยังคงเดินหน้ามอบทุนอย่างต่อเนื่อง และทุกท่านยังคงสามารถร่วมบริจาค เพื่อเป็นทุนการศึกษาผ่านบัญชีได้ที่ มูลนิธิยังมีเรา ธนาคารออมสิน สาขามาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ เลขที่บัญชี: 020395428277