นายกกัมปนาท จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินคดีกับผู้ลักลอบเผาพลาสติกเพื่อเอาเหล็ก

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น.นายกัมปนาท ชูสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะขนุน พร้อมคณะผู้บริหาร นายศิวะกร สุขทอง วิศวกรชำนาญการพิเศษ อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา นายพิชจณัฐฎ์ พลายด้วง ประธานเครือข่ายอาสาสมัคร อสม พิทักษ์สิ่งแวดล้อม สื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองแขม ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา

ตรงบริเวณพื้นที่ที่เผาเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 68
ที่ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน จึงดำเนินการบุกจับกุมผู้มาแอบลักลอบเผาพลาสติกเพื่อเอาเหล็ก โดยขนมาจากสมุทรปราการมาเผาที่ตำบลเกาะขนุน สร้างมลพิษ สิ่งแวดล้อม ส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้พี่น้องชาวบ้านในตำบลเกาะขนุน สามารถจับกลุ่มผู้กระทำความผิดได้จำนวน 3 คน ดำเนินคดี ตามกฏหมาย ที่สภ.พนมสารคาม

 

ส่วนความคืบหน้าในวันนี้ นายกัมปนาท ชูสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะขนุน ได้นำเจ้าหน้าที่ไปที่ สภ.พนมสารคาม เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.ท วฤทธิ์ ถาวโรฤทธิ์ รอง.ผกก.สส.สภ.พนมสารคาม เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องคดี พร้อมกับนำคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงไปดูรถและของกลางที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้ได้ในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วยรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ toyota สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ฒส-8341 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับของกลางเหล็กที่หุ้มพลาสติก ที่เผาไปแล้วและยังไม่ได้เผาอยู่บนกระบะรถด้านท้ายเต็มรถกระบะ

และขณะเดียวกันได้มีเจ้าของรถมาแสดงตนเป็นเจ้าของและจะมาขอรถคืนก่อนแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถให้คืนได้ต้องตรวจสอบกระบวนการในการกระทำความผิดในครั้งนี้ให้เป็นที่ที่สุดก่อน จากคนสอบถามเจ้าของรถยืนยันว่าตนเองเป็นเจ้าของรถและได้ไปรับของมาจากผู้ว่าจ้างคนหนึ่งเพื่อนำมาเผาพลาสติกที่หุ้มเหล็กอยู่ออก ในพื้นที่ตำบลเกาะขนุนจริง โดยให้ลูกน้องมาจำนวน 3 คน จากการสอบถามว่าทำไมถึงนำมาเผาในพื้นที่เกาะขนุนได้ เจ้าของรถบอกว่าได้ประกาศเช่าที่ผ่านทางโซเชียล และได้มีเจ้าของที่ขึ้นมาทักและประสานงานกันและนำมาซึ่งการเช่าที่ในบริเวณดังกล่าว สอบถามว่าแล้วเจ้าของที่เขารู้ไหมว่าจะนำที่ดังกล่าวมาเผาพลาสติกเจ้าของรถตอบว่าเจ้าของที่ก็รู้ว่าจะเช่าที่และนำมาเผาพลาสติกออกจากเหล็ก ฯ

 

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายกัมปนาท ชูสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะขนุน ว่าเรื่องนี้ตนได้ประสากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อพิสูจน์ทราบในกระบวนการในการกระทำผิดดังกล่าวให้ครบถ้วนสมบูรณ์ให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอนข้อกฎหมาย

ส่วน พ.ต.ท วฤทธิ์ ถาวโรฤทธิ์ รองผกก.สส.สภ.พนมสารคาม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบเจ้าของรถและผู้กระทำความผิดทั้งหมดและจะเรียกเจ้าของที่ดิน และผู้ว่าจ้างนำสิ่งของดังกล่าวมาทำการเผาพลาสติกในครั้งนี้ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป

อาษา/ปรีญาภรณ์/ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา