HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

กาฬสินธุ์ ครูสาวสอนภาษาจีนเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า รายได้เสริมเดือนเกือบ 5 หมื่น

 

ครูสาวสอนภาษาจีนชาวกาฬสินธุ์เลี้ยงตั๊กแตน  ปาทังก้าเป็นรายได้เสริมหลังเลิกงาน ส่งขายครบวงจรทั้งทั้งไข่และตัวตั๊กแตน รายได้งามเดือนละกว่า 5 หมื่นบาท เลี้ยงง่ายโตไวรายได้ดีจับเงินแสนสบาย

 

วันที่  2 กรกฏาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ “ครูจีฟาร์มเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า” ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสำลี ศรีเจริญ อายุ 57 ปี พร้อมนางสาววจี ศรีจรัญ หรือครูจี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.6 ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ลูกสาว และครอบครัวกำลังให้คำปรึกษาแนะนำให้ความรู้ และสาธิตวิธีการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าให้กับผู้ที่มีความสนใจในการนำไปประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้

นายสำลี ศรีเจริญ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ครอบครัว มีอาชีพทำนาเป็นหลัก ทั้งนาปีและนาปรัง หลังว่างเว้นจากทำนาแล้ว มีอาชีพเสริมคือเผาถ่ายขาย มีรถไถนาออกรับจ้างไถนา และรับเหมาเช่าพื้นที่ปลูกไร่ปลูกมันสำปะหลังควบคู่ไปกับการทำนา ทำให้มีชีวิตที่พออยู่ได้ไม่ลำบากมากนัก

ส่วนการหันมาเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า พันธุ์โมจีนนั้น เลี้ยงง่ายโตไวทันใจดี เพราะตั๊กแตนเป็นสัตว์กินพืชจำพวกหญ้า เช่น หญ้าเนเปียที่มีโปรตีนสูงต้องเตรียมไว้ให้เพียงพอต่อการเจริญเติบโตในช่วงวัยของตั๊กแตนเพื่อให้มีความสมบูรณ์ เหมาะกับการบริโภคที่ส่วนมาก จะนำไปทอดกรอบเป็นเครื่องเคียง อาหารกินเล่นที่มีโปรตีนสูงราคาบริโภคได้ทุกวัย

นายสำลี ศรีเจริญ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับขั้นตอนการเลี้ยงนั้นคือ ต้องมีมุ้งหรือตาข่าย ที่มีสภาพโปร่งแสง ทำให้อากาศถ่ายเทดีจะทำให้ตั๊กแตนโตเต็มวัยอย่างรวดเร็ว สิ่งที่สำคัญที่สุดเน้นความสะอาดเป็นหลัก ตั๊กแตนเป็นแมลงที่มีศัตรูคือมด และสัตว์ปีกหลายชนิด ชอบอยู่กลางแจ้ง เวลามีฝนตกต้องนำผ้าพลาสติกหรือแผ่นยางพารา มาคุมหรือทำเป็นหลังคา  ทำให้การดูแลเลี้ยงดูง่ายขึ้น ถ้าเราวางที่พื้นดินจะทำให้มุ้งมีความสกปรก และพยามๆหลีกให้ห่างไกลจากสารเคมีทั้งหมด เพราะอาจจะทำให้ตั๊กแตนตายได้ ถ้ามีกลิ่นจากสารเคมีเขามทารบกวน

 

 

โดยหลังจากเลี้ยงไปประมาณ 25 วันก็สามารถขายเป็นตัวที่นำไปประกอบอาหารได้ ในราคา 500 บาทต่อกิโลกรัม  ถ้าจะขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ประมาณ 35 วันเพราะต้องให้วางไข่ในภาชนะที่เตรียมก่อน สำหรับไข่ตั๊กแตน ทางฟาร์มขายในกิโลกรัมละ 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาท) ขายขีดละ 1,000 บาท ไข่ตั๊กแตนนั้นจะมีทั้งตัวผู้และตัวเมียคละเคล้ากัน ส่วนในช่วงฟักตัวจะประมาณ 15 วันก็สามารถแยกเพศได้  มีจุดสังเกตง่ายๆที่ตัวเมียจะตัวใหญ่กว่าตัวผู้ ต้องเฉลี่ยให้พอเหมาะกับสถานที่ทำการเพาะเลี้ยงระหว่างตัวผู้และตัวเมีย ในส่วนของการจำหน่ายนั้นจะทำการขายภายในหมู่บ้านก่อน ส่วนอีกช่องทางหนึ่งก็จะขายออนไลน์ในสื่อโซเชียลโดยลูกสาวและลูกเขยเป็นผู้จัดส่งให้ลูกค้า มีการจองและสั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่อง

ด้านนางสาว วจี ศรีจรัญ กล่าวว่า ปกติมีอาชีพเป็นครูสอนภาษาจีนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.กาฬสินธุ์ ในส่วนของความสนใจเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าพันธุ์โมจีนนั้น สืบเนื่องมาจากการเล่นสื่อโซเชียลพบเพื่อนในเฟสบุ๊คที่เป็นลูกศิษย์ที่อยู่ที่ จ.สุรินทร์ เลี้ยงอยู่ก่อนแล้ว เลยมีความสนใจและต้องการนำมาเลี้ยงดูเองบ้าง หลังลูกศิษย์ให้คำปรึกษาว่า สามารถเลี้ยงได้ในทุกพื้นที่ เลี้ยงง่ายโตไว้ มีแค่ให้หญ้าเป็นอาหารซึ่งที่บ้านก็มีไร่นาที่มีหญ้าจำพวก หญ้าเนเปียไว้อยู่แล้ว จึงทดลองเลี้ยงดู หลังจากเลี้ยงไปประมาณเดือนเศษ ตั๊กแตนที่เลี้ยงก็โตเติมวัยพร้อมออกจำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่มีความชื้นชอบในรสชาติ ในส่วนการตลาดในช่วงนี้ ตั๊กแตนไม่พอจำหน่ายให้ทันต่อความต้องการของตลาดทั้งในส่วนของไข่และพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ หรือในส่วนของตัวตั๊กแตนเอง

อย่างไร่ก็ตาม ในช่วงแรกที่เลี้ยงลงทุนประมาณ 7,000 บาท หลังจากทดลองเลี้ยงดูเดือนแรกมีรายได้ประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท  ขายครบวงจรทั้งพันธุ์ทั้งไข่และตัวตั๊กแตนเอง ถ้ามีสนใจที่จะนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักสามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ เพจ ปาทังก้ากาฬสินธุ์ ครูจีฟาร์ม หรือ เข้ามาดูที่ฟาร์มครูจีฟาร์มได้เลย

ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงาน