Jorakay Green Earth  พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า  ปี 2 มุ่งสร้างคาร์บอนเครดิตได้จริง

วันที่ 17 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แปลงปลูกป่าชายเลน บ้านทอนนาหมู และบ้านทอนในแสง  อ.ปะเหลียน  จ.ตรัง นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายใง(ทช.) ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการกิจกรรม “Jorakay Green Earth : พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า” นำร่องปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่กว่า 62.5 ไร่ ที่แปลงปลูกป่าชายเลน บ้านทอนนาหมู และบ้านทอนในแสง โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ของโครงการ เพื่อเข้าสู่มาตรฐานการลดก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจของประเทศไทยผ่านโครงการ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ที่ดำเนินการโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO คือหมุดหมายสำคัญที่แสดงความมุ่งมั่นของจระเข้ในการลดก๊าซคาร์บอนจากทั้งในกระบวนการผลิต การดำเนินธุรกิจ และการชดเชยผ่านการดูแลรักษาธรรมชาติ

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ทุกๆก้าวของโครงการ Jorakay Green Earth เป็นกลไกสำคัญในแผนยุทธศาสตร์ใหญ่ของจระเข้ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายองค์กรคาร์บอนเป็นกลางในปี 2050 และบรรลุ Net Zero ในปี 2065 สอดคล้องกับกลยุทธ์ 5SD และแนวทางธุรกิจที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการ โดยโครงการ Jorakay Green Earth ปีที่ 2 ยังคงเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับกรมทช. เครือข่าย Thailand Mangrove Alliance และชุมชนในพื้นที่อย่างแข็งแกร่ง โดย จระเข้ มุ่งมั่นดูแลฟื้นฟูป่าชายเลนรวมพื้นที่ 62.5 ไร่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี พร้อมสนับสนุนงบประมาณระยะยาว เพื่อให้ชุมชนมีรายได้และมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ในปีแรกของโครงการ เราได้จัดสรรงบประมาณกว่า 77% จากงบประมาณรวมทั้งหมดสำหรับการดำเนินโครงการปีแรก เพื่อกระจายรายได้จ้างแรงงานชุมชนในพื้นที่ สำหรับกระบวนการปรับปรุงพื้นที่ เพาะกล้า ปลูกต้นไม้ กำจัดวัชพืช และดูแลแปลงปลูกอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ผสานทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน นับเป็นความร่วมมือที่สร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ธรรมชาติกับการสร้างรายได้ และใส่ใจชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมยกระดับเป็นต้นแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนและการลดคาร์บอนในระดับประเทศอย่างแท้จริง “เราเลือกสร้างคาร์บอนเครดิตด้วยป่าชายเลน เพราะที่แห่งนี้คืออนาคตของเศรษฐกิจสีเขียว และจ.ตรังถือเป็นบ้านเกิดของผม ป่าชายเลนดูดซับคาร์บอนมากกว่าป่าบนบกถึง 4 เท่า โดยพื้นที่เพียง 1 ไร่ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 9.4 ตันต่อปี โดยคาดว่าคาร์บอนเครดิตที่ได้จากโครงการ จะชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 1,200 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าตลอดระยะเวลา 10 ปี ดังนั้นการปลูกป่าชายเลนจึงเป็นกลไกที่ทรงพลังในการลดคาร์บอน นอกจากนี้ โครงการนี้ยังช่วยสร้างความมั่นคงของชายฝั่ง อนุบาลสัตว์น้ำ และเพิ่มรายได้ชุมชนในระยะยาว การฟื้นฟูป่าชายเลน จึงเป็นทางเลือกที่ทรงพลัง ในการสร้างคาร์บอนเครดิตที่ยั่งยืนและมีคุณค่าต่อระบบนิเวศอย่างแท้จริง” นายศุภพงษ์ กล่าว

นายศุภพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมก่อสร้างครบวงจรที่ใส่ใจคนและดูแลสิ่งแวดล้อม จึงได้เดินหน้าโครงการสำคัญ Jorakay Green Earth ในปีที่ 2 สู่การวัดผลอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานการลดก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจของประเทศไทยผ่านโครงการ T-VER ตอกย้ำเจตนารมณ์ ลงมือจริง-ดูแลจริง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในปี 2567 จระเข้ได้นำร่องปลูกป่าชายเลนใน จ.ตรัง บนพื้นที่ 62.5 ไร่ ในปีนี้ จระเข้ จึงเดินหน้าสานต่อภารกิจด้วยการลงพื้นที่ตรวจสอบและประเมินผลป่าชายเลนอย่างเป็นระบบ เร่งจัดทำเอกสารข้อเสนอโครงการและเข้าสู่ขั้นตอนการทวนสอบโดยหน่วยงานภายนอก (Validation and Verification Body หรือ VVB) พร้อมมุ่งสู่การขึ้นทะเบียน T-VER ในขั้นตอนต่อไป   โดยโครงการ Jorakay Green Earth ดำเนินงานภายใต้แผนการดูแลผืนป่าต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งการเข้าประเมินพื้นที่และเตรียมส่งผลขึ้นทะเบียน T-VER นับเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนขององค์กรในปี 2025 และการบรรลุ Net Zero ในปี 2065 โดยเมื่อพื้นที่ป่าชายเลนจำนวน 62.5 ไร่ของจระเข้ ผ่านการรับรองและได้ขึ้นทะเบียน T-VER ในอนาคตบริษัทจะได้รับปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เก็บกักได้จริง อันจะกลายเป็นคาร์บอนเครดิต ที่สามารถนำไปชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นการวางรากฐานสู่คาร์บอนเครดิตที่จับจ้องได้ และนำไปใช้ได้จริงในตลาดคาร์บอนระดับประเทศ ตามที่เรามุ่งสร้างต้นแบบด้านนโยบายความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม และตอกย้ำว่าการปลูกป่าเพื่อสร้างคาร์บอนเครดิตนั้น สามารถทำได้จริงและต้องทำอย่างเป็นระบบ.

สุนิภา หนองตรุด / จ.ตรัง