DSI เร่งช่วยเหลือชาวบ้านให้มีพื้นที่ทำกิน – ที่อยู่อาศัย

วันที่ 24 มิ.ย. 2568 ที่ห้องประชุม อบต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา นายเสกสรรค์ ยอดพิบูลย์ อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและบังคับคดีจังหวัดยะลา สาขาเบตง ได้เป็นประธานการประชุม กรณีสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเบตง ร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอให้ช่วยเหลือเปลี่ยนพื้นที่เช่าราชพัสดุเป็นพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัยได้ บริเวณ ม.2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีนายเจตนา เหมมุน ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยนายไชยา จันทร์สุข เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ หัวหน้าส่วนรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ นายอภิรัตน์ วัฒนาพุทธการ ผู้แทน ศอ.บต. น.ส.จิฬาภรณ์ ยอดพิบูลย์ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ยะลา นายอภัย ไชยชาญ รองนายก อบต.ตาเนาะแมเรา นายวีระวัฒน์ วัฒนายากร ผู้เช่าที่ราชพัสดุ นายประเสริฐ เกาะกลาง ตัวแทนสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกิน เข้าร่วม

นายเจตนา เหมมุน ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมหารือ ครั้งที่2 เพื่อกำหนดแนวทางการจัดสรรสิทธิการเช่าที่ราชพัสดุให้กับสมาชิกสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเบตง ที่อยู่อาศัยก่อนปี พ.ศ. 2557 ตามสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ของศาลจังหวัดยะลา ระหว่างผู้เช่าเดิมกับสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเบตง จำนวน 84 ราย เนื้อที่ 20 ไร่ จากกรณีที่สมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเบตง ที่ได้ยื่นขอให้รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 จากการพูดคุยวันนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี เพราะทุกหน่วยงานทีมาประชุมวันนี้เพื่อต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว โดยสรุปจะเน้นไปที่การปรับพื้นที่โดย อบต.ตาเนาะแมเราะ องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา และกรมธนารักษ์ ได้สนับสนุนในเรื่องนี้อยู่ โดยในเรื่องถนนหนทาง อบต.จะนำมาเข้าแผน ส่วน อบจ.เข้ามาปรับพื้นที่ ส่วนกรมธนารักษ์ ก็เปิดช่องในเรื่องของกฎหมายและระเบียบ ตามอำนาจที่จะทำได้ ซึ่งทางตัวแทนของกรมธนารักษ์ มาให้คำแนะนำในเรื่องของกฎหมายและระเบียบ สรุปเป็นที่พอใจทุกฝ่ายในการประชุม และจะมีการนัดหมายอีกครั้งเพื่อสรุปแบ่งปันพื้นที่ ส่วนในวันพรุ่งนี้ก็จะนัดหมายกลุ่มสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกินเพื่อมาพูดคุยวงเล็กกันอีกครั้ง โดยจะพูดการแบ่งสันปันส่วนและลงลึกในรายละเอียดเพื่อเป็นการพบกันรอบนอกเพื่อเป็นการแก้ไชปัญหาในอนาคตได้ เพราะในเรื่องนี้จะสำเร็จอยู่ที่การพูดคุยเพราะที่ผ่านมาการประชุมทุกครั้งการจะเป็นการพูดคุยทั้งสองฝั่งอยู่แล้ว ซึ่งทาง DSIก็เป็นกลางระหว่างพี่น้องประชาชน คุณวีระวัฒน์ วัฒนายากร และหน่วยงานราชการทั้ง 10 หน่วยงาน ซึ่งทางDSI คอยประสานในด้าน เทคนิคในระดับต้นๆก่อน ส่วนการจะเข้าไปอยู่ได้เมื่อไรยังไงค่อยๆแก้ไปที่ละเปราะ เพราะทางตัวแทนสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกิน ยังคงรอได้อยู่ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไรไปแต่ที่ผ่านมาเป็นการเจรจาพูดคุยโดยการประสานและเก็บข้อมูลในทุกมิติเพื่อให้งานตรงนี้จบแบบสมบูรณ์ที่สุด

ด้านนายวีระวัฒน์ วัฒนายากร ผู้เช่าที่ราชพัสดุ เปิดเผยว่าที่คุยกันไว้คือแปลงอัยเยอร์ซอที่ราบเขตสุดประมาณต้นไทรจำนวน 1 ไร่และด้านข้างติดสวนยางพื้นที่ 1 ไร่ 3 งาน ในเบื้องต้นรวมแล้วประมาณ 6 – 7 ไร่ก่อนในเบื้องต้นซึ่งเราสามารถดำเนินการได้เลยซึ่งเรามีทางสาธารณะไว้ ส่วนอีกแปลงที่มีปัญหาด้านหลังอีก 10 กว่าไร่เป็นแปลงที่มีปัญหาในเรื่องการคมนาคมเข้าถึงได้ต้องให้หน่วยงานราชการช่วยกันผลักดันทำถนนให้เกิดขึ้นก่อน ซึ่งการประชุมในวันนี้เป็นิมิตรที่ดี อย่างไรก็แล้วแต่เป็นคนไทยด้วยกันไม่มีการแบ่งเชื้อชาติ อะไรต่างๆและขอให้อยู่กันแบบสันติสุขรักใคร่สามัคคีกันเราถึงจะอยู่กันได้ ส่วนนายประเสริฐ เกาะกลาง ตัวแทนสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกิน เปิดเผยว่า ย่างเข้าปีที่ 10ในการเรียกร้องที่ดินทำกิน และต้อง ขอขอบคุณ ทาง DSI หน่วยงานราชการ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง และคุณวีระวัฒน์ หากถามว่าในการเรียกร้องที่ดินทำกินนานหรือไม่ถือว่าไม่นานจนมาถึงขั้นนี้แล้ว มีแต่ชาวบ้านถามมาว่าจะเข้าไปได้วันไหนก็คงต้องรออีกไม่นานในการสรุปอีกครั้ง ซึ่งบรรยากาศหลังการประชุมเสร็จ ก็มีชาวบ้านนำดอกกุหลาบ มามอบให้กับนายเจตนา เหมมุน ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้เป็นคนกลางเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน ก่อนที่จะร่วมกับหน่วยงานต่างๆลงไปตรวจดูพื้นที่จริง ทั้ง 20 ไร่

เจษฎา สิริโยทัย / จ.ยะลา