จนท.เร่งเชิญชาวเขมรกลับประเทศทั้งวัน ทำตลาดช่องจอมเงียบกริบ วิน จยย.ขาดรายได้ พบแรงงานกัมพูชาที่ทำงานถูกกฏหมายใน จ.สุรินทร์ จำนวน 1,364 คน

วันที่ 25 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก จนท.ทหารฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง อ.กาบเชิง ตม.สุรินทร์ ตำรวจ สภ.กาบเชิง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม และตลาดโดยรอบ ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจและขอความร่วมมือให้บรรดาแรงงานชาวกัมพูชา ทั้งที่มีบัตรแรงงานต่างด้าว พาสปอร์ต และบอเดอร์พาสต์ที่ถูกต้อง หรือใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้วก็ตาม ได้ขอความร่วมมือเชิญให้เดินทางกลับประเทศกัมพูชาไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะปกติ ซึ่ง จนท.ทหารยืนยันว่าไม่ใช่การผลักดัน แต่เป็นการขอความร่วมมือและทำความเข้าใจด้วยสัมพันธ์ที่ดี โดยนำร่องเริ่มแผนดังกล่าวที่ชายแดนช่องจอมก่อน ตามแนวทางฝ่ายความมั่นคง

ส่งผลให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาในตลาดการค้าชาบแดนช่องจอม ต่างปิดร้านกลับประเทศกัมพูชาจำนวนมาก ส่งผลให้บรรยากาศภายในตลาดเงียบเหงา เหลือเพียงร้านค้าของคนไทยบางส่วนที่ยังเปิดค้าขายเท่านั้น

ขณะที่นางมะลิ วงษ์เจริญ วิน จยย.รับจ้าง ชาวบ้านด่าน ต.ด่านฯกล่าวว่า ตนเข้ามาดูว่าด่านเปิดปกติวันพุธหรือไม่ เผื่อจะได้รับโดยสารหารายได้ ช่วงนี้ไม่มีรายได้กันเลย แต่ถ้าหากปิดด่านก็ขอใหปิดจริงๆไม่ต้องเปิดประตูและคลุมเครือแบบนี้ พวกตนชาวรถ จยย.รับจ้างก็ทำใจอยู่แล้ว

ขณะที่ชาวกัมพูชาทั้งที่ทราบข่าวแล้วและยังมีบางส่วนที่ยังไม่ทราบข่าว กำลังมีการบอกต่อๆกัน และอยู่ระหว่างเก็บสิ่งของจำเป็นและรอรับลูกที่เรียนหนังสือฝั่งไทยกันอยู่ และช่วงบ่ายจึงจะพากันไปรวมตัวกันที่ฐานทหารกลาง ทางเข้าด่านช่องจอม อีกครั้ง เพื่อรอ จนท.ทหารไทยประสานกับ จนท.กัมพูชา ทำการเปิดประตูให้ชาวกัมพูชากลับประเทศในช่วงบ่ายอีกครั้ง

ทั้งนี้ มีข้อมูลสถานการณ์ด้านแรงงานต่างด้าว ใน จ.สุรินทร์ จากนางชนากานต์ ลีพิบูลย์สวัสดิ์ จัดหางาน จ.สุรินทร์ ที่ระบุข้อมูลว่า แรงงานต่างด้าวขอมีใบอนุญาติทำงานตามกฏหมาย ใน จ.สุรินทร์ จำนวน 2,053 คน แยกเป็น ชาวกัมพูชา 1,364 คน ,ลาว 245 คน,เมียนมา 233 คน.เวียดนาม 1 คน สัญชาติอื่นๆ 210 คน อาทิ ฟิลิปปินส์ แคเมอรูน อังกฤษ และจีน ฯลฯ โดยแรงงานกัมพูชา ได้รับอนุญาติมากที่สุด คือ กรรมกร และผู้รับใช้ในบ้าน ประเภทกิจการที่จ้างแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา มากที่สุด 5 อันดับ ประกอบด้วย ค้าส่ง ค้าปลีก แผงลอย,จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม,กิจการก่อสร้าง,เกษตรและปศุสัตว์ และงานบ้าน

ทั้งนี้แรงงานชาวกัมพูชาดังกล่าว จนท.จะขอความร่วมมือให้กลับประเทศในพื้นที่ชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ก่อนเป็นการนำร่อง ตามแผนงานความมั่นคง ส่วนพื้นที่อำเภอชั้นในและตัวเมืองต้องรอติดตามสถานการณ์อีกครั้ง.