คลี่คลายปมร้อน! รัฐบาลเสนอ 4 มาตรการแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนเขื่อนศรีนครินทร์

สภาพปัญหา พื้นที่พิพาทเดิมเคยเป็นที่ดินราชการทหารตามพระราชกฤษฎีกาปี 2481 ต่อมาในปี 2524 พื้นที่ดังกล่าวถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 81,062 ไร่ และในปี 2529 ได้มีการถอนสถานะการหวงห้ามเพื่อจัดสรรให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน แต่พื้นที่ดังกล่าวยังคงอยู่ในเขตอุทยานฯ ทำให้เกิดข้อพิพาทต่อเนื่อง

การลงพื้นที่ครั้งนี้ยังพบว่า พื้นที่บางส่วนยังคงเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีไม้มีค่าหายาก และมีค่าความหนาแน่นของป่าสูงกว่าค่ามาตรฐานถึง 27 เท่า

ที่ประชุมได้เสนอ 4 มาตรการในการแก้ไขปัญหา ดังนี้

1. ปรับแนวเขตอุทยาน เสนอให้ปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ฝั่งตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ 81,062 ไร่ ให้ชัดเจน โดยให้ สคทช. กรมแผนที่ทหาร และกรมที่ดินเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ

2. จัดการที่ดินให้ราษฎร ให้กรมที่ดินดำเนินการตามกฎหมายในการจัดสรรที่ดินให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ รวมถึงผู้ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ เพื่อลดความเดือดร้อน พร้อมสงวนพื้นที่ป่าไว้เป็นสมบัติของชาติ

3. รักษาพื้นที่ป่าสมบูรณ์ พื้นที่ประมาณ 23,000 ไร่ ที่ยังอยู่ในเขตหวงห้ามตาม พ.ร.ฎ. ปี 2481 ซึ่งยังมีป่าสมบูรณ์ประมาณ 18,000 ไร่ เสนอให้นำมาผนวกเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ โดยผ่านความยินยอมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

4. เสนอ ครม. เห็นชอบ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เป็นหน่วยงานหลักในการเสนอมติให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีพิจารณา