ผกก.พัทยา สะท้อนปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ ต่อ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาแนวทางแก้ไขสถานบันเทิง และ ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการเรียกรับผลประโชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐ สภาผู้แทนราษฎร ชี้ นโยบายขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงตี 4 หากไม่ครอบคลุมหวั่นเกิดในวงกว้างทั้งผู้ปฏิบัติและผู้ประกอบการ

ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมาธารวิสามัญพิจารณาศึกษา แนวทางการแก้ไขปัญหาสถาบันเทิงและปรับปรุ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมี น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาแนวทางแก้ไขสถานบันเทิง และปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการเรียกรับผลประโชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการจากอำเภอบางละมุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

โดยในที่ประชุม พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ในฐานะตัวแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดชลบุรี ได้ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า จากหัวข้อที่คณะกรรมาธิการฯจะมารับฟังแนวทางปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์ นั้น ผู้ที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดคงจะเป็นผู้ประกอบการ ทั้งนี้ตั้งแต่ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรจราจร สภ.เมืองพัทยามา 2 ปี และเคยมารักษาการผกก.สภ.พัทยา ก่อนหน้านี้ และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.พัทยา ซึ่งส่วนตัวมองว่าพัทยาเป็นเมืองแห่งโอกาส ในคืน ๆ 1 หากนับสถานบันิการตัวเลขมีเพียงหลักร้อย แต่หากนับรวมถึงแรงงานที่เข้ามาทำงาน เพื่อดูแลครอบครัว ใน 1 สถานบริการมีคนแรงงานนับร้อยชีวิต หากคูณตัวเลขสถานบริการทุกแห่งในพัทยาจะเห็นได้ว่ามีแรงงานที่หารายได้เลี้ยงดูครอบครัวอีกกี่ชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นมุมมองที่ตัวเองมองอยุ่ในทุกค่ำคืน

ทั้งนี้ผู้ประกอบการบาร์ตั้งแต่สมัยเป้นสารวัตรจราจรสภ.พัทยา สาวบาร์ที่ทุกท่านเอ่ยถึง จนมาวันนี้มาดำรงตำแหน่งผกก.สภ.พัทยา สาวบาร์เหล่านั้นก็ยังคงอาชีพสาวบาร์อยู่ในพัทยาไม่ไปไหน ด้วยไม่สามารถที่จะไปประกอบอาชีพอื่นได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องสะท้อนและสิ่งที่ต้องดำเนินการทั้งหมดค่อยข้างที่จะเอียดอ่อนมากแค่นั้น ซึ่งตัวเองคงจะไม่พูดถึงมุมที่ผู้ประกอบการจะพูดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไร แต่คงจะสะท้อนในมุมที่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เท่านั้น และเชื่อว่าจะมีความเดือนร้อนขึ้นอีกมากและปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงปีเดียวเท่านั้น มันเกิดขึ้นมาตลอดด้วยเมืองพัทยาเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสถานนี้มีเพียง 400 นาย เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ทำหน้าที่สุดกำลังความสามารถ ซึ่งผลงานการจับกุมทั้งอาวุธ ยาเสพติด และกาค้าประเวณีเด็กก็ได้มีดำเนินการมาโดยตลอด และในคืน ๆ หนึ่งสถานบริการเปิดให้บริการ 2,000 กว่าร้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้าเวร 400 นาย ในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจตราการเปิด-ปิดสถานบันเทิง หากมีอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ต่างเกิดขึ้นในสถานประกอบการใดสถานประกอบการหนึ่งใน 2,000 กว่าร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้าไปถึงในที่เกิดเหตุภายใน 15 นาที ซึ่งตั้งแต่มาดำรงตำแหน่งก็พยายามจะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอยู่ตลอดเวลา แต่พื้นที่พัทยาก็ไม่ใช้พื้นที่สีขาว 100 % ซึ่งมุมมองส่วนตัวมองว่าต้องปรับพื้นที่ให้บริการให้เท่ากันก่อน เมื่อมีปัญหาที่เกิดขึ้นในจุดนี้แล้ว และทุกภาคส่วนจะเดินอย่างไรที่จะให้ทุกคนอยุ่ได้ ครอบครัวของแรงงานอยู่ได้ การขยายเวลาเปิดสถานบริการ ถึงเวลา 04.00 น. เริ่ม 15 ธันวาคม 2566ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ถือว่าเป็นการดำหนดระยะเวลาที่รวดเร็วของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงานที่มองเห็นถึงปัญหา ซึ่งมีหลาย ๆ ปัญหาที่ควรจะแก้ไขและเดินหน้าไปนโยบายเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ไปพร้อม ๆกัน ทั้งนี้เมื่อเป็นข้าราชกาลก็พร้อมปฏิบัติขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ