ชาวบ้านอนุรักษ์มะไฟกาสีแดงเพลิง ผลไม้โบราณหายาก

วันนี้ 7 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหลายหมู่บ้านในตำบลปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้ช่วยกันอนุรักษ์ต้นไม้ป่าหายากชื่อว่าต้น “มะไฟกา”หรือมะไฟป่า ซึ่งเมื่อสุกจะมีสีแดงเพลิง ออกลูกตั้งแต่โคนต้นถึงปลายกิ่ง โดยลูกอ่อนจะมีสีน้ำตาลอ่อน และค่อย ๆ เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสีเหลือง สีชมพู สีส้ม และสีแดงเพลิง ทำให้กลายเป็นเสน่ห์ที่ไม่มีผลไม้ชนิดอื่นมาเทียบได้ อีกทั้งยังทำให้มีสีสันและความสวยงาม สะดุดตาผู้พบเห็นได้เป็นอย่างมาก ซึ่งต้นมะไฟกาหรือมะไฟป่า คือมะไฟชนิดหนึ่งที่ให้รสชาติหวานอมแต่จะมีรสชาดเปรี้ยวนำ เนื้อสีขาวใส ละเอียดคล้ายเนื้อลางสาด สามารถนำไปทำแกงที่มีรสเปรี้ยว เช่น แกงส้ม ต้มยำและยำได้ แต่เดิมต้นมะไฟกา ขึ้นอยู่บนภูเขาที่มีพื้นที่ลาดชัน เป็นป่าดิบชื้น พบเห็นได้เฉพาะบนภูเขาหรือที่ลาดเชิงเขาเท่านั้น ในอดีตชาวบ้านจึงต้องไปขุดมาจากบนภูเขา เพื่อเอามาปลูกประดับตกแต่งบ้าน โดยใช้เวลาปลูกนานถึง 7 ปีจึงจะออกลูกปีละครั้ง ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายนของทุกปี แต่ปีนี้ออกลูกช้าเนื่องจากมีฝนตกชุก และจากเดิมเป็นผลไม้ป่าที่ไม่มีราคา ชาวบ้านหลายรายตัดโค่นทิ้ง แต่ปัจจุบันกลับเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะเจ้าของรีสอร์ท โรงแรมและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ต่างพยายามหาซื้อต้นมะไฟกามาปลูก เพื่อความสวยงาม ทำให้ต้นมะไฟกามีราคาสูงขึ้นมาก และขายผลสุกได้ราคากิโลละ 40-50 บาท ซึ่งแต่ละต้นจะออกลูกประมาณ 700-800 กิโลกรัมเลยทีเดียว

ปัจจุบันต้นมะไฟกา กำลังหายไปจากป่าธรรมชาติ ชาวบ้านตำบลปากแจ่ม จึงช่วยกันอนุรักษ์ไว้กว่า 50 ต้น เพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไปในอนาคต โดยที่บ้านของนางวิภา สมบูรณ์หรือป้าพร อายุ 64 ปี ซอยในอ่าว บ้านท่ามะปราง หมู่ที่ 6 ต.ปากแจ่ม ได้ปลูกต้นมะไฟกาไว้หลายต้น แต่ต่อมาคุณพ่อโค่นทิ้งเพราะปลูกหลายปีไม่มีลูก จึงเหลือต้นเดียว หลังปลูกได้ 7 ปีจึงมีลูกออกมา ทำให้เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อติดลูกจะมีชาวบ้านแวะถ่ายภาพและขอชิม ขอซื้ออย่างต่อเนื่อง นางวิภา สมบูรณ์ กล่าวว่า มีคนผ่านไปผ่านมาแวะตลอด บางคนมาดูที่โคนต้นเพราะอยากจะได้ต้นไปปลูก โดยติดลูกมาตั้งแต่ปี 67-68 และจะสุกประมาณเดือนแปดข้างแรมหรือต้นเดือนเก้า ซึ่งจะมีคนเข้ามาขอเม็ด รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน แถวบ้านตนมีปลูกไม่เยอะ มีของน้าสะใภ้และที่บ้านตนเท่านั้น ทำให้กลายเป็นจุดเด่น รถผ่านไปมาก็ชะลอมองทุกคัน ส่วนเราดีใจชื่นใจแต่เสียใจที่พ่อโค่นทิ้งก่อนหน้านี้ ไม่งั้นก็จะดูเป็นแถวเป็นแนวยาว สวยงามมาก

ด้านนางรัชนี ฮุ่นตระกูล อายุ 71 ปีเจ้าของปากแจ่มรีสอร์ท กล่าวว่า จุดประสงค์ที่ปลูกเพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้รู้จัก เพื่อไม่ให้สูญพันธุ์และปลูกให้นักท่องเที่ยวได้มาชม ได้มาถ่ายรูปเพื่อความสวยงาม เพราะเวลาออกลูกจะมีสีสันสวย รสชาติเปรี้ยวนำ หวานตามเหมือนมะไฟบ้านธรรมดาทั่วไป เพราะเป็นมะไฟป่า ซึ่งหาไม่ง่ายเพราะแฟนของตนให้ชาวบ้านที่เดินป่าเอาต้นมาเพาะปลูกประมาณ 6-7 ปีจึงจะออกผล มาถึงวันนี้ที่มีมะไฟป่าออกลูกมา 3 ปีแล้ว เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ดูได้ชมและให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูป ขณะที่ น.ส. ภัทราภรณ์ แจ้งไข ผู้ช่วยเจ้าพนักงานเกษตร อบต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด กล่าวว่า ในพื้นที่ตำบลปากแจ่ม มีมะไฟกาที่ชาวบ้านปลูกไว้บริเวณรอบบ้านและในสวนไม่น้อยกว่า 50 ต้น ราคาขายตั้งแต่กิโลละ 40 บาทขึ้นไป ส่วนความนิยมมะไฟ จะเห็นว่าเมื่อเข้ามาในพื้นที่ปากแจ่ม ชาวบ้านจะนิยมปลูกบริเวณหน้าบ้านด้วย เพราะนอกจากจะเป็นผลไม้หายากและรับประทานได้ มองว่ามะไฟเมื่อมีผลผลิตเต็มต้น สุกแบบนี้ก็จะมีความสวยงาม แปลกตา ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการเก็บรักษาพันธุ์ไว้ เพื่อให้ลูกหลานรุ่นต่อไป ได้รู้จักมะไฟป่าเพราะมันค่อนข้างที่จะหายากแล้ว.

ทรงวุฒิ นาคพล / จ.ตรัง