“ผู้การมอส” สั่งทีมสืบฯเค้นคดี พลิกเกมส์ “อิ้งค์ อธิปบูรพา” สื่อนอก เกาะติดปมยิงอำมหิต

คดีจ่อยิงนักข่าวอธิปบูรพา นายณัฐภัทร หรือ “อิ้งค์”ลูกชาย “บ.ก.อั๋น” อธิบดี บุญชารี เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์-สื่อออนไลน์ ภายใต้แบรนด์อธิปบูรพา อย่างอุกอาจกลางเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อตอนเช้าตรู่ 13 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่า นายขวัญชัย ปานทอง หรือ“เป๊ก หนองเกตุใหญ่ ” วินมอเตอร์ไซค์ปืนโหด มือลั่นไกจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ ในช่วงค่ำของวันเดียวกัน ไปแล้วก็ตาม
โดยอ้างเหตุจูงใจมาจาก “อิ้งค์ อธิปบูรพา”ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ปาดหน้า บวกกับกับฤทธิ์น้ำเมาพลุ่งพล่าน จึงลงมือทำไปด้วยบันดาลโทสะ
แต่ทว่าคำรับสารภาพ กลับย้อนแย้งส่อพิรุธหลายแง่มุม กลายเป็นข้อกังขาคาใจของผู้คน ไม่มีใครเชื่อ?!?!
คำถามสังคม ผสมกระแสสื่อทุกแขนง ทั้งจากส่วนกลาง สื่อท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ Pattaya Mail รวมทั้งสื่อภาษาต่างประเทศอีกหลายสำนัก ต่างไหลบ่าถาโถมไปในทิศทางเดียวกัน
แม้กระทั่ง สหพันธ์นักข่าวนานาชาติเอเชียแปซิฟิก ( International Federation of Journalist ) หรือ “ IFJ Asia-Pacific” องค์กรสื่อระดับบิ๊กที่มีสำนักงานตั้งอยู่ใน 140 ประเทศทั่วโลก ยังให้ความสนใจต่อเหตุอุกฉกรรจ์ “อิงค์ อธิปบูรพา” ด้วยเช่นกัน
เพราะถือเป็นเหตุความรุนแรงกับ นักสื่อสารมวลชน ในประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นติดๆกัน 2 เหตุการณ์ คือเหตุจ่อยิง “อิ้งค์ อธิปบูรพา”กลางเมืองท่องเที่ยวชื่อก้องโลก อาการสาหัส และยิงนักข่าวอำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เสียชีวิต
คำถามคือ มันเกิดอะไรขึ้น? จึงเข้ามาเก็บข้อมูลพร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าของคดี!!
จนในที่สุด พลตำรวจตรี ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้สั่งให้ตั้งทีมสืบสวนขึ้นมา เพื่อคลี่คลายทุกเปลาะ เคาะทุกปม ที่สังคมคาใจ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา

“ผู้การมอส” นายพลตำรวจหนุ่มผู้มากด้วยประสบการณ์ จบจากรั้วสามพราน นรต.รุ่น 48 มีโปรไฟล์เป็นนายตำรวจสายตรงของ “บิ๊กเปีย” พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2
แม้ว่าเพิ่งโยกมาอยู่ภาคตะวันออก นั่งคุมพื้นที่ชลบุรีเป็นครั้งแรกก็ตาม แต่ผลงานเมื่อครั้งนั่งตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 คุมพื้นที่ “ไข่แดง”โซนทำเลทองของเมืองกรุงย่อมเป็นสิ่งการันตีได้อย่างดีถึงความไว้วางใจให้รับผิดชอบพื้นที่ อันเสมือนกล่องดวงใจนครบาล
ผู้บังคับการชลบุรี เน้นย้ำ ให้ทำงานกระชับ รัดกุม รอบด้านมากที่สุด ภายใต้การนำทีมของ พันตำรวจเอก ภาสกร ไพจิตต์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พันตำรวจตรี พีรวัฒน์ พงษ์ทอง สารวัตรกองกำกับการสืบสวนฯจังหวัดชลบุรี
ระดมทีมนักสืบมือระดับพระกาฬ ลงพื้นที่เมืองพัทยา ขยายผลให้ชัดเจน ว่ามีประเด็นอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เติมเชื้อให้เป็นชนวนเหตุปะทุแค้น ด้วยหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม “อิ้งค์ อธิปบูรพา” จะเป็นกุญแจดอกสำคัญ ไขปมของคดีนี้ได้ดีที่สุด คงต้องรอวันหายจากอาการบาดเจ็บสาหัส เมื่อพร้อมเข้าให้ปากคำต่อทางตำรวจ
ผนวกกับ การทำหน้าที่ “สื่อ”ในนาม “อธิปบูรพา” อย่างตรงไปตรงมาของผู้เป็นพ่อ ที่ทางชุดคลี่คลายคดี ถ่วงลูกตุ้มน้ำหนักดูแล้ว เป็นอีกหนึ่งในประเด็นสำคัญ ในการสะสางปมโหด เช่นเดียวกัน
แม้ต้องใช้ความพยายาม และทุ่มเทฝีไม้ลายมือ ขุด ค้น เสาะหาตอบทุกคำถามของสังคมที่ตั้งปม “ปุจฉา”ให้ออกมาอย่างชัดเจน
โดยไม่หวาดหวั่นเกรงต่ออิทธิพลใดๆ!!
ดั่งอมตะวาจาของจอมทัพอัศวิน พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ผู้สร้าง“แหวนอัศวิน”แหวนประวัติศาสตร์วงแรก เพื่อมอบแก่ตำรวจกล้า ในช่วงนำทัพยุทธจักรสีกากี เรืองอำนาจสุดขีด

“ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ที่ตำรวจไทยทำไม่ได้”
“There is nothing under the sun that the Thai police can’t do”
คดีจ่อยิง “อิงค์ อธิปบูรพา” พิราบขาวเพื่อปวงชน กำลังเดินหน้า พลิกเกมส์? นับหนึ่งใหม่!
ติดกระดุมเม็ดแรกผิด ต้องติดใหม่! อย่าปล่อยให้ “ตาชั่งความยุติธรรม”ผิดเพี้ยนเอนเอียง แต่เริ่มต้น…
คั้นให้ดี บี้ให้สุด มีความจริงเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น !!
คือ “คำตอบ”ที่สังคมรอฟัง!!