สบอ.3 เพชรบุรี แจงชัด ย้าย “หัวหน้าแก่งกระจาน” โปร่งใส ไม่มีทุจริต – ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 นายนพพร ประทุมเหง่า ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ชี้แจงกรณีการโยกย้ายนายมงคล ไชยภักดี ออกจากตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยยืนยันว่าการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนทางราชการอย่างเคร่งครัด โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่มีการทุจริต หรือเรียกรับผลประโยชน์ตามที่ถูกกล่าวอ้าง

การโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปตามข้อ 6 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับประโยชน์ของทางราชการ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมกับตำแหน่ง ความสามารถของบุคคล และประสิทธิภาพในการทำงาน โดยนายมงคลได้รับแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 จังหวัดตาก ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น

นายนพพรระบุว่า สาเหตุของการพิจารณาโยกย้ายมีที่มาจากการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และเพื่อให้การสอบสวนเป็นธรรมและเป็นกลาง กรมอุทยานฯ จึงตัดสินใจโยกย้ายตามดุลยพินิจของทางราชการ โดยไม่ได้มีเจตนาลงโทษหรือกลั่นแกล้งแต่อย่างใด

สำหรับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานคนใหม่ เป็นข้าราชการผู้มีประสบการณ์สูง เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเคยเป็นผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมถึงเคยปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับชุดเฉพาะกิจพญาเสือ โดยมีผลงานโดดเด่นด้านการป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

ในด้านการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ กว่า 3,952 ไร่ ทางอุทยานฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562, พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 โดยแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองพลับ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 พร้อมทั้งมีคำสั่งจากอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่าติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

สบอ.3 สาขาเพชรบุรี ยืนยันว่าทุกขั้นตอนในการโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้ ดำเนินการตามระเบียบราชการที่ชัดเจนและโปร่งใส มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ พร้อมคำนึงถึงความเป็นธรรมและขวัญกำลังใจของบุคลากรในหน่วยงาน

นายนพพรกล่าวย้ำว่า กรมอุทยานฯ ยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานอย่างเคร่งครัด ไม่เคยมีการเรียกรับผลประโยชน์ในการโยกย้ายหรือแต่งตั้งข้าราชการ และพร้อมให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาแก่สื่อมวลชนและประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในทุกประเด็นต่อไป