“อธิบดีกรมอุทยานฯ ลุยภาคตะวันออก เร่งแก้ปัญหาช้างป่าด้วยมาตรการเชิงรุก-แยกคนออกจากช้าง”

วันที่ 2 สิงหาคม 2568 – นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมคณะเดินทางลงพื้นสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 เพื่อติดตามและเร่งแก้ไขปัญหาวิกฤตช้างป่าในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยใช้มาตรการเชิงรุก

 

ภารกิจครั้งนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมด้วย นายเฉลิม พุ่มไม้ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และนายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้เข้าตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้าง คอกปรับพฤติกรรมช้างป่า ณ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรองรับช้างป่าที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวและก่อปัญหา โครงการนี้ดำเนินการภายใต้“โปรแกรมปรับพฤติกรรมช้างป่า เพื่อการอนุรักษ์” ซึ่งจะใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ควบคู่กับภูมิปัญญาดั้งเดิมในการดูแลช้าง การดำเนินการทั้งหมดจะคำนึงถึงหลักสวัสดิภาพสัตว์ โดยไม่ใช้ความรุนแรงหรือทารุณกรรมใด ๆ มาตรการนี้มุ่งหวังให้ช้างป่าที่ก่อปัญหาได้เรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในพื้นที่ควบคุม ก่อนจะปล่อยคืนสู่ป่าในอนาคต หากยังคงมีพฤติกรรมก้าวร้าว ก็จะพิจารณาการดูแลในระยะยาวต่อไป

นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมกับหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เน้นย้ำถึงการดำเนินงานตาม “โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์” ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการจัดการปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง

อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างครอบคลุม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยได้สั่งการให้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ดำเนินการ ดังนี้ปรับปรุงและซ่อมแซมรั้วกั้นเพื่อป้องกันช้างออกนอกพื้นที่ และเตรียมแผนงานในการจัดการช้างที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อนำเข้าสู่ศูนย์ปรับพฤติกรรม เร่งศึกษาและจัดหาพื้นที่รองรับสำหรับโขลงช้างขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า Wild Elephant Conservation Area (WECA) หรือ วีก้า เพื่อเป็นพื้นที่อนุรักษ์ช้างป่าอย่างเหมาะสมในระยะยาว

นอกจากนี้ให้จัดทำและอัปเดตแผนสถานการณ์ช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่เป็นประจำทุกสัปดาห์

ครอบคลุมทั้งในจังหวัดและเขตป่าอนุรักษ์ใกล้เมือง อีกทั้งเร่งรัดและเตรียมแผนงบประมาณสำหรับปี 2569 เพื่อรองรับภารกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการช้างป่า รวมถึงจัดเตรียมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า เพื่อให้สามารถของบประมาณได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังได้เน้นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ช้างป่าออกนอกพื้นที่ในช่วงฤดูต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง เช่น ปราจีนบุรีและสระแก้ว โดยให้จัดประชุมชี้แจงกับผู้นำท้องถิ่นและฝ่ายปกครองเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในช่วงเดือนตุลาคม ก่อนจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวอ้อยในเดือนพฤศจิกายนซึ่งจะมีช้างออกนอกพื้นที่เป็นจำนวนมาก และให้พิจารณาศึกษาการใช้ปืนแก๊สน้ำตาเพื่อเป็นเครื่องมือในการขับไล่ช้างป่าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย

การดำเนินการในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมอุทยานฯ ในการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างจริงจังและรอบด้าน เพื่อให้คนและช้างป่าสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำถึงกลยุทธ์สำคัญคือ “แยกช้างออกจากคน ตามหลักสวัสดิภาพ” เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย